ในที่สุดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ล่าสุด กระทรวงการคลัง ออกมากำหนดไทม์ไลน์ลงทะเบียนรอบใหม่ภายในเดือนสิงหาคม 2565
สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ล่าสุดมีเงื่อนไขต่างไปจากการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ครั้งก่อนอย่างไรบ้างนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” ได้นำข้อมูลการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐดังนี้
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน หรือ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประชารัฐ ครั้งแรก
- สำหรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน เกิดขึ้นรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี โดยมี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผลักดันให้เกิดโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน เพื่อช่วยเหลือคนมีรายได้น้อยและเปิดลงทะเบียนครั้งแรกเมื่อปี 2560
คุณสมบัติ
- มีสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (โดยต้อง เกิดก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2542)
- อยู่ในภาวะว่างงานหรือมีรายได้ที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2559 ทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท
- จะต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. พันธบัตร รัฐบาล และตราสารหนี้
- หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าว จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
- และต้องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย หรือถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ปรากฏตามข้อมูลของ กรมบัญชีกลาง ณ วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560 ระบุว่า มีผู้ลงทะเบียนจนวนทั้งสิ้นประมาณ 14.2 ล้านคน
เงื่อนไขใหม่
สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน 2565 ล่าสุด ที่มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กำลังเดินหน้าเปิดลงทะเบียนใหม่นั้นมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
คุณสมบัติ
- อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ยังเหมือนเดิม
แต่มีการเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ต่างๆ ดังนี้
- จะต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ เกินกำหนด เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ พื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
- ห้องชุดไม่เกิน 35 ตารางเมตร
- ส่วนที่ดินเพื่อการเกษตรไม่เกิน 10 ไร่
- ที่ดินทั่วไปไม่เกิน 1 ไร่
- ไม่มีบัตรเครดิต
- ไม่มีเงินกู้เกินที่กำหนด เช่น กู้สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1.5 ล้านบาท วงเงินกู้รถยนต์ไม่เกิน 1 ล้านบาท
- ต้องไม่มีการถือครองบัตรเครดิต
ไทม์ไลน์โอนเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน
ทุกวันที่ 1 ของเดือน
- วงเงินสินค้า 200 / 300 บาทต่อเดือน
- ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (เม.ย. - มิ.ย. 65)
- บขส. 500 บาทต่อเดือน
- รถไฟ 500 บาทต่อเดือน
- รถไฟฟ้า (MRT+BTS+ARL) / ขสมก. 500 บาทต่อเดือน
หมายเหตุ : ถอนเป็นเงินสดไม่ได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป
ทุกวันที่ 15 ของเดือน
- เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
- 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิตั้งแต่เดือน ต.ค. 64 - ก.ค. 65 จะได้รับเงินเข้าบัตรฯ ในเดือน เม.ย. - ก.ย. 65)
หมายเหตุ : ถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้
ทุกวันที่ 18 ของเดือน
เงินคืนค่าไฟฟ้า
- ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
เงินคืนค่าน้ำประปา
- ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)
หมายเหตุ : ถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้
ทุกวันที่ 22 ของเดือน
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับ เงินเบี้ยความพิการ)
หมายเหตุ : ถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้.
ที่มา: กรมบัญชีกลาง