นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์หน้าสศช.เตรียมหารือหน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจ ถึงแนวทางการต่ออายุ มาตรการลดค่าครองชีพ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ผลักดันออกไป 10 มาตรการ และกำลังจะหมดอายุในเดือนกรกฎาคม นี้
สำหรับหน่วยงานเศรษฐกิจที่คาดว่าจะหารือร่วมกัน ประกอบไปด้วย สภาพัฒน์, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงการหารือร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ด้วย
“ตอนนี้เห็นแล้วว่ามาตรการดังกล่าว ใกล้จะสิ้นสุดมาตรการลงแล้วดังนั้นคงต้องมาดูว่าจะมีมาตรการอะไรออกมา หรือต่ออายุได้ไหม ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจอะไร เพราะต้องหารือกันอีกหลายครั้ง เบื้องต้นคงนัดคุยกันในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ได้เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นกับคณะของนายกรัฐมนตรีแล้ว” นายดนุชา ระบุ
ส่วนการดำเนินมาตรการต่าง ๆ จะมีวงเงินเพียงพอหรือไม่นั้น นายดนุชา ยอมรับว่า ตอนนี้แหล่งเงินที่เตรียมไว้รองรับมีทั้งเงินจากพ.ร.ก.เงินกู้ฯ 5 แสนล้านบาท ซึ่งยังเหลือวงเงินอยู่ประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท และเงินงบกลาง แต่ก็ต้องมาดูก่อนว่ามาตรการที่จะออกมาเป็นมาตรการอะไร และบางมาตรการก็อาจไม่ต้องใช้เงินก็ได้
เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ กล่าวว่า สศช.ได้ประเมินเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง จะปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว แต่ก็อาจต้องดูมาตรการเพิ่มเติมไปช่วย เช่น การสนับสนุนถึงแหล่งเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องและเป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจในระยะต่อไป
“ปัญหาของประเทศไทยที่กำลังเจอตอนนี้ คือ เรื่องค่าครองชีพสูง จากเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้นมาตรการที่จะออกมาคงเน้นต้องช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายเฉพาะมากขึ้น โดยหน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจทั้งหมดต้องมาคุยในรายละเอียดกัน และหาข้อสรุปออกมาเพราะตอนนี้ยังมีเวลาอยู่” เลขาธิการ สภาพัฒน์ กล่าว
สำหรับมาตรการลดค่าครองชีพเดิม ที่ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกอบไปด้วย
ระยะเวลาการดำเนินโครงการ
สำหรับการช่วยเหลือผ่านมาตรการลดค่าครองชีพดังกล่าว ครอบคลุมกลุ่มที่ได้ประโยชน์ทั้งหมด 4 กลุ่ม ดังนี้