จับตรวจ"จ๋อลพบุรี"หาโรคทำหมัน ปลุกเชื่อมั่นไร้"ฝีดาษลิง"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าว  การระบาดของโรคฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานร (Monkeypox) ในหลายประเทศทั่วโลก ว่ายังต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ซึ่งหลายปีที่ผ่านมามีการระบาดในประเทศแถบแอฟริกา ส่วนในเอเชียยังไม่มีการรายงานโดยตรงมากนัก

ขณะที่ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. 2565 เริ่มพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงเข้ามาในประเทศแถบยุโรป มีความเชื่อมโยงการเดินทางไปยังแถบแอฟริกา ก่อนจะติดเชื้อกลับมา จนมีการแพร่ระบาดในบางประเทศ   ซึ่งสร้างความหวาดกลัววิตกกังวลในหลายประเทศ รวมทั้งคนในประเทศไทยด้วย และทางการออกมาตรการป้องกันแล้ว

สำหรับจังหวัดลพบุรีนั้นเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองลิง    ที่ผ่านมาในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และอาหารของลิง  ยิ่งมีข่าวการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิง ก็ทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น   ทำให้นักท่องเที่ยวอาจหวาดกลัวไม่กล้ามาเที่ยวลพบุรี ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงไปอีก     

เมื่อเช้าของวันที่ 26 พ.ค.2565  เจ้าหน้าที่จากสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 จ.สระบุรี ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดลพบุรี  และ เทศบาลเมืองลพบุรี ร่วมกันจับลิงลพบุรี ที่อาศัยอยู่ที่ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด และลิงตึกตรงข้ามพระปรางค์สามยอด  ซึ่งมีประชากรลิงที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีมากกว่าหมื่นตัว  มาทำหมันเพื่อเป็นการควบคุมประชากรลิงให้อยู่ในวงกำจัด และเป็นการนำลิงมาตรวจหาโรคในตัวด้วย รวมถึงโรคฝีดาษลิง ถือว่าเป็นการป้องกันไปในตัว แม้ว่าโรคดังกล่าวยังยังไม่มีการแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทยก็ตาม

การดำเนินการดังกล่าว ยังเป็นการสร้างความมั่นใจ ให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป นอกจากที่จับมาตรวจโรคทำหมันแล้ว  ทีมเจ้าหน้าที่ยังได้มีการทำสัญลักษณ์ให้กับลิงแต่ละตัวเป็นการเก็บข้อมูลไปด้วย

ขณะที่นักท่องเที่ยวที่มาสักการะเจ้าพ่อพระกาฬ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองลพบุรี รายหนึ่งกล่าวว่า  ส่วนตัวไม่กังวลกับเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าโรคนี้ไม่น่าจะมีต้นเหตุมาจากลิง  เพราะที่ติดตามข่าวทราบว่า "ฝีดาษลิง “ ก็อาจจะมีที่มาจากหนูได้ด้วย โดยโรคนี้เป็นโรคประจำถิ่นของทวีปแอฟริกานานแล้ว และก็ยังไม่เห็นว่าในประเทศไทยมีสัตว์เป็นรังโรคนี้  

 
 ธนพล    อาภรณ์พงษ์/รายงาน