นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจความพร้อมการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่า จากการปรับมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ตามนโยบาย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการปรับแผนการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติมากขึ้น โดยยังคงต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass แต่ปรับลดประเภทเอกสารต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการลงทะเบียน
ขณะเดียวกันจากการลงพื้นที่วันนี้ได้ตรวจความพร้อมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในขั้นตอนการให้บริการและการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ทั้งบริเวณด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ซึ่งยังคงมีการตรวจคัดกรองโรคผู้โดยสาร ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเข้มงวดเช่นเดิม อาทิ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย คัดกรองอาการป่วย การตรวจเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตรวจ Professional ATK (เฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือรับวัคซีนไม่ครบและไม่มีผลตรวจโควิดก่อนเดินทาง รวมทั้งกรณีไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองโรคที่กำหนด) สำหรับผู้โดยสารที่ผ่านการคัดกรองแล้วสามารถผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการเข้าประเทศได้ตามปกติ แต่หากไม่ผ่านการคัดกรองจะต้องดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการในแต่ละขั้นตอน ทั้งการคัดกรองของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จุดตรวจหนังสือเดินทาง และจุดตรวจศุลกากร เจ้าหน้าที่สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทสภ. คาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินจะทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าทั้งปี 65 จะมีปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ 22 ล้านคน ซึ่งไตรมาสที่ 4 พบว่ามีนักท่องเที่ยวจองตั๋วเดินทางอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ 50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในปี 62 คาดว่าในเดือนมิถุนายน 2565 จะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 17% หรือประมาณ 70,000 คนต่อวัน จากเดิม 64,000 คนต่อวันในเดือนพฤษภาคม แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศร้อยละ 57 และในประเทศ ร้อยละ 43 ขณะที่จำนวนเที่ยวบิน คาดว่าเพิ่มเป็นเฉลี่ยวันละประมาณ 500 เที่ยวบิน จากเฉลี่ยวันละประมาณ 440 เที่ยวบินในเดือนพฤษภาคม แยกเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศร้อยละ 55 และเที่ยวบินในประเทศร้อยละ 45
"นายกฯได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดเข้มงวดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง และห้ามถอดหน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพรร่บาดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งเตรียมความพร้อมระบบบริการเชื่อมต่อการเดินทาง หลังออกจากท่าอากาศยาน เช่น รถขนส่งสาธารณะ รถรับจ้าง และส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการเปิดประเทศในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ จะส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จึงควรเตรียมความพร้อมระบบการเดินทางให้คล่องตัวและเพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารได้รับความสะดวกมากที่สุด ซึ่งจะทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยได้มากขึ้นและส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง"
สำหรับคนไทยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ยกเว้นการใช้ระบบ Thailand Pass คาดว่าจะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวและการเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศมาตรการ มีดังนี้ 1. ผู้โดยสารสัญชาติไทยได้รับการยกเว้นการใช้ Thailand Pass ในการเดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้ จะต้องแสดงหลักฐานการรับวัคซีนหรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด โดยสามารถดูรายชื่อวัคซีนได้ที่ คลิก
2. ผู้โดยสารชาวต่างชาติจะต้องลงทะเบียน Thailand Pass ก่อนการเดินทาง โดยจะได้รับ QR CODE หลังจากการลงทะเบียน ทั้งนี้ สายการบินอาจปฏิเสธการให้ขึ้นเครื่องบิน หากผู้โดยสารไม่แสดง QR CODE ของ Thailand Pass
3. ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ แนะนำว่าให้ตรวจหาเชื้อด้วย RAPID ANTIGEN TEST (ATK) เมื่อมีอาการ
4. ผู้โดยสารชาวต่างชาติที่เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PROFESSIONAL ATK หรือ RT-PCR ก่อนการเดินทาง 72 ชั่วโมง
5. ผู้โดยสารชาวต่างชาติจะต้องมีประกันสุขภาพวงเงินไม่ต่ำกว่า USD 10,000 หรือหนังสือรับรองการรักษาพยาบาลตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
6. สายการบินจะต้องตรวจสอบว่าผู้โดยสารชาวต่างชาติมี QR CODE ของ Thailand Pass ในกรณีที่ตรวจพบว่าผู้โดยสารชาวต่างชาติไม่มี QR CODE ของ Thailand Pass เมื่อมาถึงประเทศไทย สายการบินมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลผู้โดยสาร
7. ผู้โดยสารที่ไม่มี THAILAND PASS, เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหรือ ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี PROFESSIONAL ATK หรือ RT-PCR จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ด่านกักกันโรค
8. ผู้ดำเนินงานสนามบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรองขาเข้าและขาออก ตามที่ราชการกำหนด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
นอกจากนี้กรณีการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในต่างประเทศนั้น ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการกระบวนการคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และกำหนดขั้นตอนปฏิบัติหากพบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัย การสอบสวนโรค รวมทั้งขั้นตอนการส่งต่อผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยไปยังสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัยตามมาตรการการผ่อนคลายการเข้าประเทศไทยครั้งนี้