ลดค่าไฟ 2565 กำลังจะสิ้นสุดลงสินเดือนสิงหาคมตามมาตรการที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 เม.ย. โดยให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที (FT) แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565
ล่าสุดนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงประเด็นดังกล่าวว่า ค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย. - ธ.ค. 65 ยืนยันว่ารัฐบาลยังคงดูแลผู้ใช้ไฟที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือกลุ่มเปราะบาง ไปถีงสิ้นปี
โดยผู้ใช้ไฟฟ้าดังกล่าวที่จ่ายค่าไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ ที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย
"กระทรวงพลังงานกำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะหาแนวทางดูแลค่าไฟงวดปลายปีได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งยืนยันว่าหากมีการปรับขึ้นแล้ว จะต้องไม่ปรับขึ้นอีก เพื่อดูแลประชาชนในทุกกรณี โดยเฉพาะดูแลสภาพคล่องของ กฟผ. ให้สามารถมาดูแลด้านราคาค่าไฟได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กฟผ.ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ก็สามารถจะขอกรอบวงเงินกู้ ภายใต้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)รัฐวิสาหกิจ เพิ่มเติมได้"
สำหรับมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวเป็นการปรับปรุงรายละเอียดในมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน อันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
การปรับปรุงถ้อยคำมาตรการลดภาระค่าครองชีพของปะชาชน โดยการให้ส่วนลดค่าเอฟที ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน
จากเดิมที่ให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ปรับเป็นโดยให้ส่วนลดอัตราค่าเอฟที แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 ซึ่งจะทำให้มาตรการมีความชัดเจนและเป็นการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้า
ขณะที่ค่าไฟรอบปัจจุบันเดือน พ.ค.-ส.ค. 65 นั้น ในการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 65 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ.ระบุว่า ที่ประชุม กกพ. ได้มีมติให้ปรับเพิ่มค่าเอฟที สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2565
โดยให้เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.00 บาทต่อหน่วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ค่าไฟฟ้าปรับสูงขึ้นไปแตะที่ระดับนี้