รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการส่งมอบทรัพย์สินให้บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (บริษัทลูก) นั้น ปัจจุบันบริษัทเอสอาร์ทีฯ ได้มีการรายงานความคืบหน้าในการเช่าทรัพย์สินเพื่อดำเนินการ เบื้องต้นพบว่ายังติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและข้อระเบียบของรฟท.ที่ต้องแก้ไข เนื่องจากที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ดำเนินการถ่ายโอนทรัพย์สินตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยระบุว่า หากเป็นสัญญาที่อยู่ระหว่างการเช่าและยังไม่หมดสัญญาให้จ้างบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ในการบริหาร และกรณีที่สัญญาเช่าสิ้นสุดลงให้บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เช่าที่ดินของรฟท.ก่อนจึงจะนำไปให้เอกชนเช่าต่อได้
ส่วนที่ดินที่ไม่เคยนำมาหารายได้ให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ไปศึกษาในการเช่าที่ดินหรือจะหาผู้ร่วมลงทุนดำเนินการ หลังจากนั้นจึงจะได้สิทธิ์ในการนำที่ดินนั้นไปพัฒนาหรือให้เช่าต่อไป คาดว่าจะสรุปแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ให้เกิดความชัดเจน หลังจากนั้นจะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ในการประชุมภายในเดือนมิถุนายน 2565
“เรายืนยันว่าการจัดตั้งบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ไม่ใช่เป็นพ่อค้าคนกลาง โดยรฟท.จะเร่งรัดการส่งมอบทรัพย์สินตามแผนให้รอบคอบโดยปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งนี้ตามแผนการโอนถ่ายทรัพย์สินให้แก่บริษัทเอสอาร์ที ฯระบุว่าการส่งมอบสัญญาสุดท้ายจะสิ้นสุดในปี 2575 แต่นโยบายของกระทรวงคมนาคมจะดำเนินการส่งมอบให้เร็วกว่าแผนที่วางไว้”
ขณะเดียวกันบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ต้องเป็นผู้ร่างระเบียบต่างๆขึ้นมา เช่น ระเบียบพัสดุ ระเบียบการกำหนดอัตราค่าเช่า เนื่องจากบริษัท เอสอาร์ทีฯ ถือเป็นอีกบริษัทหนึ่งหรือเป็นอีกนิติบุคคลหนึ่งที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในการดำเนินการให้เช่าทรัพย์สิน กรณีที่จะดำเนินการข้ามนิติบุคคลต้องมีกฎหมายและระเบียบที่รองรับ นอกจากนี้ตามหลักการมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มองว่า การจัดตั้งบริษัทเอสอาร์ทีฯ ขึ้นมา เพราะต้องการให้เป็นบริษัทที่มีศักยภาพและความสามารถในการบริหารที่ดินทรัพย์สินเพื่อให้รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาการบริหารทรัพย์สินของรฟท. ที่ดำเนินการโดย บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จะมีการใช้วิธีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารใหม่ ทำให้บริษัทมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในยุคโลกาภิวัตน์ เบื้องต้นคณะกรรมการบริหาร บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จึงได้มีการดำเนินการเตรียมความพร้อม และการวางแผนการดำเนินงานให้แล้วเสร็จไปในหลายเรื่องๆ แล้วอย่างเป็นระบบ ภายในระยะเวลาอันสั้น เช่น ด้านกระบวนการทางกฎหมายได้มีการขอยกเว้นพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนด้านการบริหารจัดการและทางด้านธุรกิจ ได้มีการวางแผนในการกำหนดการมอบสิทธิในการบริหารที่ดิน เพื่อให้บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เตรียมความพร้อมในการรับมอบสิทธิการบริการที่ดิน เป็นต้น
นอกจากนี้ทางบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ได้มีการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารโครงการใหญ่ๆ ในที่ดินต่างๆ เพื่อดำเนินการหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่ได้ดำเนินการในรูปแบบการให้เช่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางการเงิน คาดว่าบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้รฟท.ได้โดยมีมูลค่าสูงถึง 125,175.44 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปี
สำหรับการถ่ายโอนทรัพย์สินให้บริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ทั้งหมด 12,839 สัญญา มูลค่า 3,166 ล้านบาท โดยในช่วงแรกรฟท.จะเริ่มทยอยโอนทรัพย์สินโครงการขนาดใหญ่ที่มีการทำสัญญาไว้แล้ว จำนวน 75 สัญญา มูลค่าทรัพย์สิน 1,645 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด สามารถดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินได้ทันที และหลังจากนั้นจะมีการทยอยโอนส่งมอบทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง