นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงการพิจารณาค่าการกลั่นน้ำมัน ว่า ในสัปดาห์นี้ก็ได้มีการหารือกันต่อเนื่องกับผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ 6 แห่ง เพื่อดูแนวทางการเรียกเก็บกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมันแล้ว แต่ตอนนี้ขอให้ไปดูตัวเลขต่าง ๆ ว่ามีการคำนวณออกมาอย่างไร
ทั้งนี้ในการพิจารณาเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยปัจจุบันยังมีตัวเลขของกระทรวงพลังงาน ที่ใช้ค่าเฉลี่ย 6 เดือนอยู่ที่ 3.27 บาทต่อลิตร ต่างจากตัวเลขของนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งคำนวณออกมาที่ 8.50 บาทต่อลิตร ซึ่งก็มีที่มาที่ไปที่สามารถอธิบายได้เช่นกัน
“ตอนนี้เกิดความเข้าใจของประชาชนที่แตกต่างกัน โดยวิธีที่ดีที่สุดได้ขอให้โรงกลั่นน้ำมัน สมาคมโรงกลั่นน้ำมัน เมื่อเห็นข้อมูลของอดีตรมว.คลังแล้วก็ไปวิเคราะห์ดูว่า ตัวเลขของตัวเองเป็นมาอย่างไร มีวิธีวิเคราะห์ที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง แล้วนำมาชี้แจงหรือให้ข้อคิดเห็นแลกเปลี่ยนกับอดีตรมว.คลังก็ได้ ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายอยากเห็นและทำความเข้าใจที่ถูกต้อง”
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ได้กำชับไปแล้วว่าเรื่องการคิดค่าการกลั่นควรจะมีคำตอบออกมาในวันนี้ ชี้แจงออกมาให้ชัดเจน หรือนัดพบกับอดีตรมว.คลัง เพื่ออธิบายค่าการกลั่น เพื่อให้สุดท้ายจะได้มีแค่ 1 ตัวเลขที่ใช้เหมือนกัน และจากการสอบถามปลัดกระทรวงพลังงานถึงบรรยากาศของการคุยกับทางโรงกลั่น ทุกคนก็เข้าใจในการช่วยเหลือประชาชน และพร้อมช่วยเหลือ แต่สุดท้ายต้องรอให้ได้ข้อสรุปเรื่องตัวเลขค่าการกลั่นที่ชัดเจนเสียก่อน
รองนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า จะพยายามหาข้อสรุปเรื่องนี้ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งยอมรับว่า ตัวเองก็ใจร้อน และทุกคนก็ใจร้อนอยากให้จบเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาก็ได้ประชุมเรื่องนี้กันแบบวันเว้นวัน ถ้าจบก็คือจบ แต่ถ้าไม่จบ ระหว่างนี้ก็คงต้องคิดช่องทางอื่นต่อไป
“ตอนนี้ต้องดูก่อนว่าค่าการกลั่นที่มีการคิดฐานราคาต่างกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ไม่อย่างนั้นก็เข้าใจคนละทิศคนละทาง และทำให้ความคาดหวังคนต่างกัน ดังนั้นจึงต้องเริ่มจากตัวเลขที่ถูกต้องก่อน แล้วค่อยมาดูกันว่าทุกคนจะร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชน หรือลดภาระรัฐบาล อย่างสมเหตุสมผล หรือสมน้ำสมเนื้อได้มากน้อยแค่ไหน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ส่วนกรณีการดึงกำไรส่วนต่างจากโรงกลั่นมาจะสามารถทำได้ถึงเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งเอาไว้ประมาณ 6,000 – 7,000 ล้านบาทหรือไม่ รองนายกฯ ระบุว่า คงต้องรอดูการพูดคุยกับโรงกลั่นอีกครั้ง และขอให้รอสักนิด เบื้องต้นอาจจะได้ต่ำกว่า หรือสูงกว่า หรือได้น้อยแต่ระยะยาวขึ้น ก็คงต้องมาดูกันอีกที เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับวิธีการเจรจาร่วมกัน
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้รายงานในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันนี้ รับทราบถึงความคืบหน้าการเจรจาโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ 6 แห่ง เพื่อเรียกเก็บกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนมิถุนายน 2565 นี้
ทั้งนี้จากการหารือกับโรงกลั่นน้ำมัน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอัตราที่เหมาะสมกับการเรียกเก็บกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมันเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และรับฟังข้อเท็จจริงของค่าการกลั่นน้ำมันว่า เมื่อนำน้ำมันดิบเข้ามากลั่นแล้วในน้ำมันแต่ละประเภทมีต้นทุน และมีค่าใช้จ่ายอย่างไร จากนั้นจึงหาจุดสมดุลว่าสิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีการหารือครั้งนี้หากไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะมาตรการรัฐที่ออกมาเป็นแค่การขอความร่วมมือ โดยรัฐอาจต้องออกเป็นพ.ร.ก. หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาเรียกเก็บเลยหรือไม่นั้น ปลัดประทรวงพลังงาน ยอมรับว่า เบื้องต้นคงขอพูดคุยกันก่อน ซึ่งตอนนี้ทุกคนเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก แต่หากตกลงไม่ได้ ก็ค่อยมาดูเรื่องกฎหมายตามที่มีผู้แนะนำมาอีกครั้ง
“ตอนนี้ยังไม่ได้ไปถึงจุดที่ต้องออกกฎหมาย แต่พูดคุยขอความร่วมมือกันก่อน และการจะออกกฎหมายต้องดูอำนาจตามกฎหมายภายใต้พ.ร.บ.น้ำมันเชื้อเพลิง หรือกฎหมายอื่น ๆ ซึ่งกระทรวงพลังงานก็ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว แต่ในขั้นนี้ขอให้คุยกันก่อน เมื่อได้ข้อยุติก็คงมาแถลงความชัดเจนต่อไป” ปลัดพลังงาน กล่าว