DBD DataWarehouse+ คลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ขออมูลนิติบุคคล งบการเงินที่มีการประมวลผลและวิเคราะห์ให้เป็นข้อมูลสารสนเทศรูปแบบที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการแก่ภาคธุรกิจ/ประชาชนในการสืบค้นข้อมูล
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้พัฒนาข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นข้อมูลสารสนเทศที่ทรงประสิทธิภาพ
โดยผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลใน DBD DataWarehouse+ ทั้งที่เป็นข้อมูลปฐมภูมิ และข้อมูลที่ได้รับการวิเคราะห์ไปใช้งานได้ทันที ทั้งการตรวจสอบสถานะนิติบุคคล ข้อมูลงบการเงิน การวิเคราะห์ธุรกิจ การลงทุนจากต่างชาติในนิติบุคคลไทย และการค้นหาข้อมูลคู่ค้าทางธุรกิจ
ซึ่ง DBD DataWarehouse+ เป็นการให้บริการข้อมูลธุรกิจที่เผยแพร่ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตที่มีผู้เข้าใช้งานและค้นหาข้อมูลมากกว่า 9 ล้านครั้งต่อปี โดยสามารถเข้าใช้งานได้ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มุ่งหวังใหภาครัฐ ภาคธุรกิจ และทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงและนําข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นข้อมูลประกอบก่อนการตัดสินใจลงทุน และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายต่างๆ
โดยเข้าค้นหาข้อมูลธุรกิจในระบบ DBD DataWarehouse+ ได้ง่ายๆ ทุกที่ทุกเวลา ผ่านทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟน แทปเลท หรือ เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ www.dbd.go.th >> บริการออนไลน์ >> บริการข้อมูลธุรกิจ >> DBD DataWarehouse+ (คลังข้อมูลธุรกิจ) หรือ ค้นหาข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน DBD e-Service ทั้งระบบ IOS และ Android
ทั้งนี้ ภาคธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก DBD DataWarehouse+ เช่น ตรวจสอบสถานะนิติบุคคล โดยสามารถค้นหาข้อมูลของนิติบุคคล พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อมูลในประเภทธุรกิจเดียวกันเพื่อให้ทราบถึงสถานะของตนเองแยกตามขนาดธุรกิจ รวมทั้ง ผลประกอบการเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจ และอัตราส่วนทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวัดประสิทธิภาพในการบริหารงานของกิจการ สะท้อนให้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อน ช่วยวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไข หรือพัฒนาการดำเนินงานขององค์กรให้ได้ผลการดำเนินงานตรงตามแผนงานหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ของกิจการ
โดยการวิเคราะห์ธุรกิจ สามารถค้นหาข้อมูลภาพรวมของกลุ่มธุรกิจแต่ละประเภท วิเคราะห์ศักยภาพการดำเนินธุรกิจตามผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจลงลึกถึงระดับภาคและจังหวัด เพื่อให้เห็นแนวโน้มการประกอบธุรกิจในแต่ละพื้นที่ อัตราการอยู่รอดของธุรกิจ พร้อมทั้ง สัดส่วนการลงทุนในนิติบุคคลแบ่งตามสัญชาติ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจเป้าหมายที่สนใจ หรือปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังสามารถค้นหาคู่ค้าทางธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานเดียวกัน (Supply Chain) ตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำเพื่อค้นหาปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ โดยมีข้อมูลทางธุรกิจให้ตรวจสอบเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการติดต่อคู่ค้าที่มีความน่าเชื่อถือ และค้นหาธุรกิจปลายน้ำเพื่อค้นหาแหล่งกระจายสินค้าและผู้ใช้บริการสามารถขยายโอกาสทางการตลาดให้แก่ธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
การวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจ เป็นเครื่องมือช่วยกำหนดกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ โดยใช้เครื่องมือแบบจำลองทางการเงิน และการประมาณการเพื่อพิจารณาแนวโน้มรายได้ของธุรกิจรายประเภท ลงลึกถึงพื้นที่ และขนาดของธุรกิจ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเพิ่มประสิทธิภาพได้ด้วยตนเอง และกำหนดแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้มีทิศทางที่ถูกต้อง วางแผนและกำหนด position ของธุรกิจในอนาคตได้ ส่งผลให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรที่วางไว้อย่างรวดเร็ว สร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจระยะยาว