ไฟไหม้ล่าสุด กฟน. แจง เหตุไฟไหม้สำเพ็ง ย้ำ พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

จากกรณีเหตุไฟไหม้ตลาดสำเพ็ง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งปรากฎผ่านสื่อออนไลน์ก่อนเกิดเหตุ ปรากฎกลุ่มควันบริเวณหม้อแปลงไฟฟ้านั้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ได้ชี้แจงโดยโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง MEA ระบุว่า 

ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 11.25 น. การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ได้รับแจ้งเหตุจากประชาชนว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณสำเพ็ง ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ จึงส่งรถแก้ไฟฟ้าขัดข้องตรวจสอบ

พบว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณหม้อแปลงไฟฟ้า และอาคารพาณิชย์ รถยนต์ ได้รับความเสียหาย พนักงานช่างสายอากาศได้ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า และให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการฉีดน้ำในสถานที่เกิดเหตุ และได้ดำเนินการจ่ายไฟกลับคืนเมื่อเวลา 16.00 น. รวมถึงดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชน

สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ จากข้อมูลที่สื่อมวลชนรวมถึงสื่อออนไลน์เผยแพร่ และคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ แจ้งว่า มีกลุ่มควันบริเวณหม้อแปลงไฟฟ้าเกิดขึ้น 

ถัดมาเกิดเปลวไฟที่บริเวณสายสื่อสารใต้หม้อแปลงไฟฟ้า และลุกลามไปยังอาคาร 3 คูหา รถยนต์ จำนวน 4 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน ผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากหม้อแปลงสถานี SD12526 หรือสายสื่อสารที่อยู่บริเวณสถานีหม้อแปลงดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงต้องรอกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติสรุปสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ 

MEA มีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบ จึงพิจารณาช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วนตามมาตรการฉุกเฉิน โดยกรณีมีผู้เสียชีวิต MEA จะมอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทโดยธรรมตามกฎหมายของผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ MEA จะมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและนำสิ่งของไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ

กรณีมีทรัพย์สินของประชาชนเสียหาย MEA จะมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ได้รับความเสียหายเป็นการเบื้องต้นเช่นเดียวกัน สำหรับผู้เสียชีวิต MEA อยู่ระหว่างการประสานงานกับสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรมศพต่อไป

ในส่วนมาตรการแก้ไขและป้องกัน MEA จะทบทวนแผนการบำรุง ดูแลรักษา โดยเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบให้มากขึ้น ดำเนินการเปลี่ยนหม้อแปลงไฟฟ้าก่อนครบอายุการใช้งาน เร่งดำเนินการนำนวัตกรรมการแจ้งเตือนเหตุสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้านำมาใช้เพิ่มเติมในระบบที่มีอยู่

นอกจากนี้จะเร่งประชุมหารือหาแนวทางร่วมกันในการตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้ารวมถึงจุดเสี่ยงต่าง ๆ พร้อมดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยของประชาชน 

ที่มา เพจเฟซบุ๊ก การไฟฟ้านครหลวง MEA