นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โพสต์ข้อความ เรื่อง จุดเปลี่ยน หรือTurning Point เตือนให้ระมัดระวังการลงทุน ชี้ยังไม่ใช่จุดต่ำสุด โดยระบุว่า
สำหรับในสหรัฐ ที่เป็นตลาดที่ทุกคนจับตาอย่างใกล้ชิด จุดเปลี่ยนสำคัญมีอยู่ 2 เรื่อง
เงินเฟ้อ ว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเป็นอย่างไร peak หรือยัง จะลงมาเป็นปกติที่ 2% หรือจะค้างอยู่ที่ 3-4% ที่ดูตัวนี้ก็เพราะว่า มีนัยยะต่อเฟด และจะช่วยให้เข้าใจได้ว่า เฟดจะต้องขึ้นดอกเบี้ยไปอีกแค่ไหน จะมี Surprise ให้ตลาดอีกหรือไม่ ที่สำคัญอีกอย่าง ที่เฟดบอกว่า 3.8% นั้น จะพอหรือไม่ เอาเงินเฟ้ออยู่หรือไม่
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ว่า ข้อมูลที่ออกมาเริ่ม stabilized หรือนิ่งแล้วหรือไม่ หรือเศรษฐกิจยังคงดำดิ่ง ที่ดูตัวนี้ก็เพราะว่า ถ้าการปรับตัวของเศรษฐกิจมีผลต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ถ้าการปรับตัวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ก็หมายความว่า บริษัทต่างๆ จะมีผลประกอบการที่น้อยกว่าตลาดคาด ออกมาอีกระยะ
ยิ่งคนหมดความมั่นใจ และมั่นใจน้อยลงไปทุกที กำลังซื้อหดหาย รายได้บริษัทต่างๆ ก็จะลดถอยตามไปด้วย อย่างล่าสุด เมื่อคืนนี้ ตัวเลขที่ทำให้ตลาดปรับ Nasdaq -3% ,S&P500 -2% ,Dow Jones -1.6% ก็คือ "ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐ"
ข้อมูลจาก The Conference Board ที่เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลสำคัญที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดต่อเนื่อง ต่ำสุดในรอบปี ส่วนการคาดการอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯใน 6 เดือนข้างหน้า ต่ำสุดในรอบ 18 ปี!!!
"ถ้าผู้บริโภคซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจสหรัฐยังกังวลใจ จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จากเศรษฐกิจที่มืดมนมากขึ้น ผู้บริโภคก็จะระวังในการจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การซื้อบ้าน รถ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ"
นอกจากนี้ในเรื่อง Business Outlook ผู้บริโภค 30% คิดว่าธุรกิจจะแย่ลงในช่วง 6 เดือนข้างหน้า (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 26%) ,คนที่คิดว่าจะดีขึ้นใน 6 เดือนข้างหน้า ลดลงเหลือเพียง 14.7% (จากเดิมมีอยู่ 16.4%)
ทั้งหมดยังชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังเสียการทรงตัว และยังคงต้องปรับตัวไปอีกระยะ จุดเปลี่ยนที่ทุกคนมองหา คงยังต้องอีกระยะ และช่วงนี้ ตลาดก็จะผันผวน แปรปรวน เหวี่ยงไปมามากกว่าปกติ
ถ้าข้อมูลเศรษฐกิจจะ "3 วันดี 4 วันไข้"ตลาดที่มองข้อมูลอย่างใกล้ชิด ก็จะ "3 วันดี 4 วันไข้" เช่นกัน
ขอให้อดใจไว้อีกนิด ลงทุนด้วยความระมัดระวัง เขาบอกกันว่า "นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ก็คือ นักลงทุนที่อดทนได้มากกว่าคนอื่น" ครับ
ที่มา : เฟซบุ๊ก Kobsak Pootrakool