ในวันนี้ 1 กรกฎาคม 2565 คนไทยทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศสามารถ "ถอดหน้ากาก" โดยความสมัครใจได้โดยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 46 เรื่อง การผ่อนคลายข้อปฏิบัติในการสวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้าทั่วราชอาณาจักร
"ฐานเศรษฐกิจ" พาไปทบทวนรายละเอียดมาตรการสำคัญเรื่องนี้กันอีกครั้ง
เงื่อนไขการถอดหน้ากากอนามัย
1.เมื่ออยู่คนเดียว
2.กรณีอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่พำนักเดียวกัน ต้องสามารถเว้นระยะห่างได้
3.กรณีมีกิจกรรมที่จำเป็นต้องถอดหน้ากาก เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย รับบริการบริเวณใบหน้า และศิลปะการแสดงต่าง ๆ ให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เมื่อกิจกรรมนั้นเสร็จสิ้น ควรสวมหน้ากากทันที
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย
1.กลุ่ม 608
2.ผู้ติดเชื้อโควิด-19
3.ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากเชื้อโควิด-19 ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น
สถานที่ภายนอกอาคาร
สถานที่ภายในอาคาร/สถานที่ปิด
คำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข
"หน้ากากอนามัย" ยังคงมีประโยชน์ในการป้องกันทั้งการแพร่เชื้อและการรับเชื้อโควิดและโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมถึงยังสามารถป้องกันปัจจัยอื่นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงควรพกหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน และสามารถนำมาสวมเมื่อมีความเสี่ยง
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดล่าสุด วันที่ 30 มิ.ย.2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงาน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,695 ราย มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมถึงวันนี้อยู่ที่ 4,522,915 ราย ไม่รวม ATK อีก 4,034 ราย สะสม 1,860,377 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 14 ราย สรุปภาพรวมเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 30,648 ราย