ที่ศาลปกครอง วันที่1กรกฎาคม2565 : หลังจากศาลปกครองกลาง นั่งพิจารณาคดี ครั้งแรกหลังจากเลื่อนมาจากวันที่ 23 มิ.ย.2565 ในคดียกเลิกการประกวดราคา(ล้มประมูล)โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวิทวงศ์) รอบแรก
ที่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด(มหาชน)หรือบีทีเอสซี เป็นโจทย์ยื่นฟ้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา36 แห่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ
โดย เปิดโอกาสให้ฝั่งโจทย์ ที่มีนางสาวปะราลี เตชะจงจินตนา ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก บีทีเอสซีให้ข้อมูลเพิ่มเติมทางวาจาและทางฝั่งรฟม.ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมทางเอกสาร
หลังจากศาลได้เรียกสอบพยานทั้ง 2 ฝ่ายครบแล้ว โดยไม่ขอพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งมีกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีในวันที่ 7 กรกฎาคม2565 นี้ และมองว่าน่าจะเป็นไปในทางที่ดี
นางสาวปะราลีกล่าวภายหลังการให้ข้อมูลต่อศาลปกครองกลางว่า การให้ข้อมูลทางคดีครบถ้วนแล้วรอเพียง ศาลนัดแถลงคำตัดสินวันที่7กรกฎาคมที่จะถึงนี้
ส่วนการการลงสนามประมูลโครงการสายสีส้มรอบสองนั้นรายงานข่าวจากบีทีเอสซียืนยันว่า ทางบีทีเอสซีและพันธมิตรยังคงให้ความสำคัญกับโครงการดังกล่าวและเชื่อมั่นว่าน่าจะผ่านหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดไปได้ด้วยดี
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอสซีระบุว่า การพิจารณาของศาลปกครองกลางในครั้งนี้ได้ให้ตุลาการผู้แถลงคดี ซึ่งการพิจารณาคดีขึ้นกับตุลาการที่จะอ่านคำพิพากษาในวันที่ 7 กรกฎาคม2565
ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางได้ให้ผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องชี้แจงข้อมูลผ่านเอกชนเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทฯ ได้ชี้แจงข้อมูลการยกเลิกการประมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับเอกชน
โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ 580/2564 ระหว่าง บีทีเอ ในฐานะผู้ฟ้องคดี กับ คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย