กมธ.พลังงาน หนุนหม้อแปลงประหยัดพลังงาน ชงรัฐบาลช่วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

11 ก.ค. 2565 | 06:42 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ค. 2565 | 13:59 น.

กมธ.การพลังงาน สภาผู้แทนฯ หนุนหม้อแปลงไฟฟ้าประหยัดพลังงาน/ลดคาร์บอน รับเรื่องชงรัฐบาล นำเงินกองทุนพลังงานทดแทนช่วยเหลือผู้ประกอบการ อุตสาหกรรม และ SME ไทย เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำปรับเปลี่ยนหม้อแปลง หลัง มจธ.-เจริญชัยหม้อแปลงฯ ตอกย้ำประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนได้จริง

 

นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ รองประธานกรรมาธิการพลังงาน(กมธ.การพลังงาน) เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการพลังงานสภาผู้แทนราษฎร  เมื่อวันที่  7 กรกฎาคม 2565 ได้มีการพิจารณาระบบบริหารจัดการพลังงานสิ้นเปลืองแบบเรียลไทม์ ที่ช่วยให้ประหยัดพลังงาน และลดคาร์บอน เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นภาระหลักต่อการดำเนินธุรกิจและส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือการนำเสนอหม้อแปลงไฟฟ้าที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เป็นนวัตกรรมใหม่ให้คณะกรรมาธิการฯได้รับทราบ จึงเรียนเชิญ ผศ.ดร.ศุภกิตต์ โชติโก หัวหน้าประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ. / บางมด)มาชี้แจงในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องใหม่ ที่คณะกรรมาธิการฯและประชาชน ตลอดทั้งผู้ประกอบการเพื่อหาทางออกร่วมกัน

 

ชูวิทย์  พิทักษ์พรพัภลภ

 

 

จากข้อมูลการชี้แจงในเบื้องต้นพบว่า นวัตกรรมที่ มจธ. ร่วมกับ บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัดทำการศึกษาวิจัย หม้อแปลงไฟฟ้า Low Carbon นั้น สามารถช่วยประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนได้ถึง 11.5% หากใช้ในระยะยาวตลอดอายุการใช้งานหม้อแปลงไฟฟ้าที่ใช้นวัตกรรมใหม่นี้ นับว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ เองกำลังพิจารณาเพื่อเป็นอีกทางเลือกช่วยประหยัดพลังงานให้สอดรับยุคพลังงานแพงที่มีแนวโน้มขยับราคาขึ้นไม่หยุด

 

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมาธิการฯ จะเสนอรัฐบาลพิจารณา  โดยจะเชิญการไฟฟ้า และกองทุนพลังงานทดแทน มาปรึกษามาร่วมประชุมหารือกันอีกครั้ง ตลอดทั้งจะนำเสนอให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชั้นนำของเมืองไทย และ SME ทั่วประเทศ ดำเนินการของบสนับสนุนจากกองทุนพลังงานทดแทนเพื่อกู้เงินใช้เป็นทุนปรับเปลี่ยนหม้อแปลง  เพื่อหันมาใช้หม้อแปลงประหยัดพลังงานไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไปในอนาคต

 

กมธ.พลังงาน หนุนหม้อแปลงประหยัดพลังงาน ชงรัฐบาลช่วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

 

ด้าน ผศ.ดร.ศุภกิตต์ โชติโก หัวหน้าประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มจธ. กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับบริษัทเจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า ศึกษาวิจัยการจัดการพลังงานสิ้นเปลืองแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ประหยัดพลังงานและลดคาร์บอน พบว่าสามารถประหยัดพลังงานได้จริง

 

โดยนวัตกรรมดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงจำนวนรอบขดลวดหม้อแปลงเพื่อให้จ่ายระดับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่หรือให้อยู่ในระดับมาตรฐาน (On Load Tap Changer: OLTC) ควบคู่กับระบบสั่งการ หรือ ระบบมอเตอร์ (Motoring System) วัดแรงดันปกติโดยอัตโนมัติ หากแรงดันเกินไประบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงข้อมูล (Internet of Things for Distribution Transformers:IDT Monitoring) เพื่อวิเคราะห์สถานะของหม้อแปลง ไฟฟ้าแบบวินาทีต่อวินาที (Real-time) จะแจ้งความผิดปกติให้รู้ทันที ทำให้ช่างไฟฟ้าสามารถมองเห็นความผิดปกติเข้าไปแก้ไขได้ทันที

 

กมธ.พลังงาน หนุนหม้อแปลงประหยัดพลังงาน ชงรัฐบาลช่วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ  

 

ขณะที่ นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ  กล่าวว่า ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมาธิการพลังงานฯ ได้ศึกษานวัตกรรมใหม่แล้วน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และจากการชี้แจงของ  ผศ.ดร.ศุภกิตต์ โชติโก หัวหน้าประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มจธ.ทำให้เชื่อมั่นว่าสามารถช่วยให้ประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนได้จริง อยากให้ฝ่ายรัฐบาล ตลอดทั้งในส่วนการไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) หรือ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ช่วยนำนวัตกรรมใหม่นี้ไปนำเสนอรัฐบาลเห็นชอบในการสนับสนุนประชาชนติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าประหยัดพลังงาน เนื่องจากปัจจุบันพลังงานของประเทศไทยราคาพุ่งสูงไม่หยุด

 

กมธ.พลังงาน หนุนหม้อแปลงประหยัดพลังงาน ชงรัฐบาลช่วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

 

ด้าน นายพีรพันธ์ วงศ์กมลพร ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการพลังงาน กล่าวว่า ประเทศไทยทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าภายในสิ้นปีนี้ประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกตามทิศทางราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เจ้าของอาคาร หมู่บ้านจัดสรร และ SME ควรหันมาพิจารณานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อลดการใช้พลังงาน ลดคาร์บอน

 

อย่างหม้อแปลง Low Carbon ที่สามารถลดค่าใช้จ่ายลงถึง 11.5% ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลควรให้การสนับสนุนสินค้าไทย นวัตกรรมไทย ให้ผู้ประกอบการหันมาใช้หม้อแปลงประหยัดพลังงานเป็นทางเลือกช่วยประหยัดต้นทุน โดยผู้ประกอบการรายใดไม่มีงบประมาณไม่เพียงพอก็สามารถกู้เงินผ่านกองทุนอนุรักษ์พลังงานทดแทนที่พร้อมให้งบประมาณสนับสนุน 30% ของการลงทุน คิดอัตราดอกเบี้ยแค่ 2-3%  นับเป็นออกที่ดีที่สุดในยุคพลังงานแพงที่คณะกรรมาธิการฯให้การสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างเต็มที่