ปตท.-อินโนบิก-จุฬาฯ เตรียมผลิตนวัตกรรม "มณีแดง" ต้านเซลล์ชรา

12 ก.ค. 2565 | 14:15 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ค. 2565 | 21:16 น.

ปตท.-อินโนบิก-จุฬาฯ เตรียมผลิตนวัตกรรม "มณีแดง" ต้านเซลล์ชรา ระบุปัจจุบันมีการเตรียมความพร้อมที่จะทดสอบในมนุษย์ เพื่อนำไปสู่กระบวนการผลิตโมเลกุลมณีแดงสู่สังคม

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ,บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการร่วมมือกันวิจัยและผลิตนวัตกรรม ‘โมเลกุลมณีแดง’ หรือ RED–GEMs (REjuvenating DNA by GEnomic Stability Molecules) นวัตกรรมต้านเซลล์ชรา 

 

ทั้งนี้ ขั้นตอนในปัจจุบันมีการเตรียมความพร้อมที่จะทดสอบในมนุษย์ เพื่อนำไปสู่กระบวนการผลิตโมเลกุลมณีแดงสู่สังคม  โดยประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มตัว ซึ่งจะมีผลกระทบต่องบประมาณค่าใช้จ่ายของภาครัฐด้านสาธารณสุข ตลอดจนการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจประเทศอย่างมีนัยสำคัญ 

 

ปตท. ตระหนักถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น จึงมุ่งสร้างธุรกิจ New S-Curve เพื่อเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ และส่วนร่วมนำพาประเทศให้เดินหน้าได้อย่างแข็งแรง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร Powering Life with Future Energy and Beyond ที่มุ่งสร้างคุณค่าให้แก่สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย โครงการมณีแดง ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของนักวิจัยไทยที่น่ายกย่อง และควรสนับสนุนต่อยอดให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ ปตท. และประธานกรรมการ อินโนบิก เอเชีย กล่าวว่า อินโนบิก เอเซีย มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างนิเวศน์วิทยาทางธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี และสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพของประชาชน 

 

 

โดยนอกเหนือจากการลงทุนด้านยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ และโภชนเภสัชแล้ว ยังมีเป้าหมายเร่งสร้างการพัฒนานวัตกรรมของคนไทยให้เทียบเคียงได้ในระดับสากล ผ่านความร่วมมือกับเครือข่าย ทั้งนักวิจัยและมหาวิทยาลัย เพื่อต่อยอดงานวิจัยออกสู่เชิงพาณิชย์ 

 

 

ซึ่งเป็นความท้าทายและต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ทั้งการวิจัยในห้องปฏิบัติการ การวิจัยทางคลินิก การเตรียมความพร้อมทางด้านการผลิตในระดับอุตสาหกรรม การตลาด การขึ้นทะเบียน และทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อสร้างมูลค่าของงานวิจัยให้เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทย

 

ปตท.-อินโนบิก-จุฬาฯ เตรียมผลิตนวัตกรรม "มณีแดง" ต้านเซลล์ชรา

 

โดยอินโนบิก (เอเชีย) จะสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการโครงการ การทำการตลาดเชิงพาณิชย์ พร้อมทั้งบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ตลอดจนเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อให้โครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ทั้งในเชิงผลลัพธ์และระยะเวลา

"มณีแดง ถือได้ว่าเป็นการค้นพบที่น่าสนใจ สามารถต่อยอดในการฟื้นฟูและป้องกันที่มีการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านชีววิทยาโดยเฉพาะพันธุศาสตร์ สนับสนุนยุทธศาสตร์ของประเทศ ที่ต้องการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ครบวงจร และพัฒนาอุตสาหกรรมการสร้างเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์อย่างยั่งยืน หรือ Wellness"

 

ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดี จุฬาฯ  กล่าวว่า จุฬาฯเป็นสถาบันการศึกษามีการผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลงานนวัตกรรมที่ยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อสังคม (Real-world Impact Innovation) ตลอดจนมุ่งใช้ศักยภาพของมหาวิทยาลัยในการตอบสนองและบริการสังคม ด้วยการสร้างสรรค์ และบ่มเพาะองค์ความรู้สู่การสร้างสรรค์แนวทางแก้ไขปัญหาสังคม ทันต่อการปรับเปลี่ยนและการแข่งขันสู่มหาวิทยาลัยแห่งชาติในระดับโลกที่ยั่งยืน 

 

นอกจากนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้พลิกโฉมสู่มหาวิทยาลัยที่เน้นนวัตกรรมสร้างสรรค์สังคม ผ่านการสื่อสารสโลแกนใหม่ของจุฬาฯ “Innovations for Society” ตอกย้ำจุดยืนที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์สังคม สร้างสรรค์ให้สังคมดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี ไปจนถึงการส่งเสริมองค์ความรู้ที่สำคัญที่จะขับเคลื่อนสังคมให้ไปข้างหน้าด้วยกัน

 

ศ.ดร.นพ.อภิวัฒน์ มุทิรางกูร อาจารย์ประจำคณะกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกของโลกจากการที่ได้ค้นพบกลไกต้นน้ำของความชราสู่การพัฒนาโมเลกุลมณีแดง โดยทั่วไปในดีเอ็นเอจะมีรอยแยก (youth-DNA-gap) อยู่บริเวณที่มีดีเอ็นเอแมดทิเลชัน (DNA methylation) อันเป็นที่มาของโมเลกุลมณีแดง 

 

ซึ่งมีบทบาทในการช่วยปกป้องดีเอ็นเอและป้องกันความแก่ชราในดีเอ็นเอ โดยเมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น รอยแยกดีเอ็นเอจะลดลง ทำให้เกิดแรงตึงทั่วสายของดีเอ็นเอ ดีเอ็นเอไม่สามารถหมุนตัวได้อย่างปกติ และถูกทำลายได้ง่าย เราจึงพบรอยโรคในดีเอ็นเอของเซลล์ที่แก่ชราแล้วเยอะขึ้น ซึ่งรอยโรคดีเอ็นเอนี้จะส่งสัญญาณให้เซลล์หยุดการแบ่งตัวตามปกติและเข้าสู่ความแก่ชรา 

 

รวมถึงอาจนำไปสู่การกลายพันธุ์และมะเร็งได้ โมเลกุลมณีแดงคือยีนที่มีหน้าที่เป็นกรรไกรเพื่อสร้างรอยแยกดีเอ็นเอ เซลล์ที่ได้รับมณีแดงจะมีดีเอ็นเอที่แข็งแรงขึ้น และทำให้เซลล์ที่เสื่อมลงแล้วกลับมาดีขึ้น 
         

 

“จากการค้นพบนำไปสู่การวิจัยและพัฒนา จนเข้าสู่การทดสอบในสัตว์คือ หนู หมู และลิง โดยได้ทดสอบกับหนูวัยชราที่มีแผลเบาหวาน แผลไฟไหม้ พบว่าหนูวัยชรากลับเป็นหนูที่มีความแข็งแรงและกระตือรือร้นขึ้น ทั้งการทำงานของ สมอง ตับ และไต ในส่วนของไขมันในช่องท้องและพังผืดในตับได้ลดหายไปด้วย ด้านแผลเบาหวาน แผลไฟไหม้หายดี ไม่มีผลข้างเคียง"

 

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้ทดสอบในหมูแรกเกิด และทดสอบคุณภาพเนื้อเมื่อมีน้ำหนัก 100 กิโลกรัม พบว่ามีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น แน่นขึ้น ปัจจุบันโครงการได้ทดสอบในลิงแสม และหนูที่เป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และปอดเป็นพังผืด ขณะนี้ได้ทดสอบมณีแดงกับลิงแสมแล้ว 3 เข็มในระยะเวลา 3 สัปดาห์ จากที่วางแผนไว้ 8 เข็ม ในระยะเวลา 8 สัปดาห์ โดยลิงแสมทุกตัวปลอดภัยดี และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ