นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ให้ความสำคัญต่อการช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย หรือ ไมโครเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความผันผวนของเศรษฐกิจทั้งระดับประเทศและระดับโลก และเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้มีความแข็งแกร่ง
กรมฯ ได้กำหนดมาตรการความช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจต่างๆ รวมถึงประชาชนที่ต้องการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว
ล่าสุด กรมฯ เตรียมช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารเคลื่อนที่ หรือ ฟู้ดทรัค ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น โดยเปิดพื้นที่บริเวณลานตลาดนัดกระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี ให้ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคเข้าจำหน่ายสินค้า ระหว่างวันที่ 20 - 21 กรกฎาคม 2565 ระหว่างเวลา 06.00 - 15.00 น. มีผู้ประกอบการฯ เข้าร่วมงานกว่า 20 ราย สินค้าประกอบด้วย อาหารไทย อาหารสากล อาหารว่าง ขนมหวาน ไอศกรีม และเครื่องดื่มชนิดต่างๆ
จากข้อมูลของ TBIC Food Truck Thailand พบว่า ปี 2564 ประเทศไทย มีฟู้ดทรัคประมาณ 2,800 คันทั่วประเทศ และคาดว่า ปี 2565 จะมีฟู้ดทรัครวมทั้งสิ้นประมาณ 3,100 คันทั่วประเทศ (เติบโตขึ้นจากปี 2564 ประมาณร้อยละ 10) โดยมีสัดส่วนแบ่งตามประเภทรถ ดังนี้ รถกระบะ 85% รถคลาสสิค 6% รถเทรลเลอร์ 5% รถสามล้อ 2% และ รถอื่นๆ 2 % และมีสัดส่วนของประเภทสินค้า ดังนี้ เครื่องดื่ม 25% อาหารอินเตอร์ 22% อาหารไทย 22% อาหารว่าง 16 % และ ของหวาน 15 %
สำหรับปัญหาและอุปสรรคของผู้ประกอบการฟู้ดทรัค คือ ขาดประสบการณ์ด้านการขายและขาดฐานลูกค้า หาพื้นที่จอดรถสำหรับขายสินค้าได้ยาก ยังคงมียอดขายที่ดี แต่ผลกำไรลดลงเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ขาดเงินทุนหมุนเวียน ขาดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อขยายกิจการ และ ขาดโอกาสในการขอสินเชื่อเพื่อต่อยอดธุรกิจและขยายกิจการ
ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงเดินหน้าส่งเสริมและผลักดันธุรกิจฟู้ดทรัคเป็นหลักประกันทางธุรกิจประเภทกิจการ สร้างความมั่นใจช่วยเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น โดยได้หารือและขอความร่วมมือสถาบันการเงินในการรับ ‘ธุรกิจฟู้ดทรัค’ เป็นหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอีเพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เบื้องต้น สถาบันการเงินรายย่อย มีการรับกิจการมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2565) จำนวน 8,864 กิจการ มูลค่ารวม 1,312 ล้านบาท