ระหว่างวันที่ 27-31 สิงหาคมนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะนำคณะผู้บริหารของกระทรวงฯ และภาคเอกชน 50-100 ราย เดินทางเยือนกรุงริยาด และนครเจดดาห์ของซาอุดิอาระเบีย เป้าหมายเพื่อขยายการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น
เบื้องต้นจะมีการพบปะหารือกับกระทรวงพาณิชย์ สภาหอการค้า และอย.ของซาอุฯ การจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ (บิสซิเนส แมทชิ่ง), การลงนาม MOU ระหว่างภาคเอกชนไทย -ซาอุฯ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้างสรรพสินค้า
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ จะมีสมาชิกของ สรท.ร่วมเดินทางไปด้วย 24 คน จาก 18 บริษัท ในหลากหลายกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพในการขยายตลาดซาอุฯ ประกอบด้วย CJ MANUFACTURING CO.,LTD ผู้ผลิตลูกหมากรถยนต์, MMP CORPORATION LTD ผู้ผลิตและผู้ส่งออก, ggbp trade global., ltd เทรดเดอร์, GGBP Trade Global สินค้าอาหาร, บจก.อินโนเว็คเอเซีย อุตสาหกรรมหนัก
บจก.ริน อินเตอร์ฟู้ด สินค้าอาหารแห้งพร้อมทาน / ปลาเค็มอินทรีรวนพร้อมทาน / ซุปเห็ดปลากระพงพร้อมทาน, บจก.ภิม คอลเลคชั่น สินค้าแฟชั่น สิ่งทอ ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า ของแต่งบ้านจากผ้าเขียนเทียนภูมิปัญญาชนเผ่า, บมจ.อาหารสากล สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม / เครื่องดื่มผลไม้และผักแปรรูป, บจก.จีจีบีพี เทรด โกลบอล เทรดดิ้ง / ทุเรียนสด ผลไม้อบแห้ง เครื่องแกงผัดสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยวเรือสำเร็จรูป
บจก.ลี้กิจเจริญแสง โรงงานผู้ผลิตหลอดไฟฟ้า, บจก.ญาลีเฮิร์บ สินค้าเครื่องสำอาง สุขภาพและความงาม / ยาสีฟันสมุนไพร น้ำผึ้ง, บจก.ยูนิแอร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ, บจก.พิมพร บานาน่า อินเตอร์ฟู้ดส์ แปรรูปสินค้าเกษตร กล้วย เผือก มันเทศ, บจก.เชียงใหม่ไบโอเวกกี้ ผู้ผลิตอาหาร /Bioveggie ผักอัดเม็ดวิตามินรวมจากผักโครงการหลวง, บจก.นิตโต้ เอ็กซอสท์ (ไทยแลนด์) ผู้ผลิตท่อไอเสีย, A.M.C MOTOR (AMORNCHAI) CO.,LTD ชิ้นส่วนยานยนต์ /ไฟรถยนต์ และ บจก.เวก้าเนเจอรัล ยา / เวชภัณฑ์ –เครื่องสำอาง
“จากที่มีการจัดกิจกรรมเพื่อขยายการค้ากับซาอุฯอย่างต่อเนื่องนับแต่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุฯตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทางสรท.ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกไทยไปซาอุฯในปีนี้ที่ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือ 6.8-7 หมื่นล้านบาท คำนวณที่ 34 และ 35 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5.6 หมื่นล้านบาท”
จากเวลานี้ซาอุฯมีกำลังซื้อสูงขึ้นมากเพราะมีรายได้จากการส่งออกน้ำมันที่ราคาสูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน คาดราคาน้ำมันดิบโลกในปีนี้ถึงปีหน้าจะเฉลี่ยที่ 95-105 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เพราะดูแล้วสงครามคาดจะยืดเยื้อ ทั้งนี้คาดการส่งออกไทยไปซาอุฯในปี 2566 จะกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขระดับเดียวกับที่เคยส่งออกในปี 2559 ได้