นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า อีเอ็นไอ อาบูดาบี ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ และบริษัท พีทีทีอีพี มีนา จำกัด บริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ในฐานะผู้ร่วมทุน ได้ดำเนินการเจาะหลุมสำรวจ XF-002 ซึ่งเป็นหลุมสำรวจหลุมแรกในโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2
โดยได้มีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติในชั้นหินกักเก็บระดับลึกในปริมาณมาก จากก่อนหน้านี้ที่ได้ค้นพบก๊าซฯ ในชั้นหินกักเก็บระดับตื้นในปริมาณมากเช่นกัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการค้นพบก๊าซฯ ของโครงการนี้
ทั้งนี้ จากการทดสอบอัตราการไหลของก๊าซธรรมชาติ พบว่ามีอัตราการไหลอยู่ในระดับที่ดีมาก โดย ปตท.สผ. และอีเอ็นไอ อยู่ระหว่างการประเมินผลเพื่อพิจารณาเร่งรัดการพัฒนาโครงการ รวมทั้งมีแผนจะทำการเจาะหลุมในโครงสร้างข้างเคียง เพื่อประเมินศักยภาพของแปลงต่อไป
“การขุดพบดังกล่าว นับเป็นแหล่งก๊าซฯ ขนาดใหญ่อีกแหล่งหนึ่งที่เราค้นพบในช่วง 2-3 ปีมานี้ โดยผลจากการค้นพบแหล่งก๊าซฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ในชั้นหินกักเก็บระดับตื้น และการค้นพบล่าสุดในชั้นหินกักเก็บในระดับที่ลึกลงไป"
อย่างไรก็ดี ประเมินเบื้องต้นพบว่ามีปริมาณก๊าซธรรมชาติในแหล่งกักเก็บโดยรวมประมาณ 2.5 - 3.5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ทั้ง ปตท.สผ และ อีเอ็นไอพร้อมที่จะผนึกกำลังและร่วมมือกัน โดยนำเอาองค์ความรู้ ความสามารถและเทคโนโลยีมาผลักดันและเร่งการพัฒนาโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 ให้สำเร็จในอนาคต เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมและเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติให้บริษัท อีกทั้ง ยังสอดคล้องกับแผนการเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติของยูเออีในอนาคตอีกด้วย
สำหรับโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐอาบูดาบี ประเทศยูเออี ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4,033 ตารางกิโลเมตร โดยมีบริษัท พีทีทีอีพี มีนา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ถือสัดส่วนการลงทุน 30% และอีเอ็นไอ อาบูดาบีซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ ถือสัดส่วนการลงทุน 70%
ปัจจุบัน ปตท.สผ. มีการลงทุนในยูเออีร่วมกับอีเอ็นไอทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่ โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 1 โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 3 และโครงการชาร์จาห์ ออนชอร์ แอเรีย ซี ซึ่งทุกโครงการอยู่ในระยะสำรวจ