"บิ๊กป้อม" มอบหนังสืออนุญาตให้ทำกิน-อยู่อาศัย ในเขตป่าสงวน จ.นครพนม

01 ส.ค. 2565 | 13:00 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2565 | 20:04 น.

พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ ตรวจราชการ จ.นครพนม มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ - อยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3 ป่า ในจังหวัดนครพนม เนื้อที่รวม 53,661 ไร่

1 สิงหาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครพนม เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ จ.นครพนม ณ หอประชุมโรงเรียนโพนสวรรค์ราษฎร์พัฒนา อ.โพนสวรรค์ โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นผู้แทนกล่าวต้อนรับ

 

จากนั้น พล.อ.ประวิตร มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 3 ป่า ประกอบด้วย ป่าห้วยศรีคุณ, ป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ระยะที่ 1 และป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ระยะที่ 2 เนื้อที่รวม 53,661 ไร่ 1 งาน 39 ตารางวา 

 

พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ จ.นครพนม ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกา แปลงที่ 2 ระยะที่ 1 จำนวน 338 ราย โดยมีผู้แทนประชาชน 5 ราย เป็นตัวแทนรับมอบ

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องไฟฟ้า น้ำสำหรับอุปโภคบริโภค เส้นทางการคมนาคม ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การเข้าถึงแหล่งทุนของประชาชน

 

รวมถึงการนำแนวทางสหกรณ์มาใช้ในการบริหารจัดการในพื้นที่ คทช. เพื่อให้ประชาชนต่อยอดความรู้ มีความเข้มแข็ง และพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงเน้นย้ำทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ คทช. อย่างต่อเนื่อง

พร้อมทั้งขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล หากมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานให้ประสานคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

 

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ได้ได้มอบนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ให้แก่ ทางจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ณ ศาลากลางจังหวัดนครพนมด้วย