นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คทช. ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันนี้ เห็นชอบหลักการการปรับเปลี่ยนให้ผู้ขอใช้ประโยชน์การอยู่อาศัยและทำกินในป่าสงวนแห่งชาติ จากผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ที่จัดที่ดินทำกินให้ชุมชน
ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามภายใต้เงื่อนไข และข้อกำหนดการใช้ที่ดินและแนวทางปฏิบัติของกรมป่าไม้ มาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และการชำระค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งดำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินความเข้มแข็งของสหกรณ์
นางรวีวรรณ กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นการยกระดับในการอนุญาตให้กับสหกรณ์ หรือวิสาหกิจชุมชน สามารถเป็นผู้ขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ คทช. แทนผู้ว่าราชการจังหวัดได้ โดยต้องผ่านหลักเกณฑ์ตามที่กรมส่งเสริมสหกรณ์กำหนด โดยจะมีการตรวจประเมิน ถ้าผ่านเกณฑ์แล้ว พื้นที่ของคทช.ที่มีความพร้อมก็สามารถยื่นเรื่องมายังคทช.จังหวัด เพื่อเป็นผู้รับหนังสืออนุญาตแทนผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไปได้
ขณะเดียวกันที่ประชุมคทช. ยังเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง จังหวัดระนอง ตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เห็นชอบ และมอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับไปดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเสนอครม.ไป
รวมทั้งเห็นชอบการเสนอเรื่องต่อครม. ให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม “ป่าสวนเมี่ยง”เนื้อที่ประมาณ 361 ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนำไปดำเนินการตามกฎหมายการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้แก่สมาชิกสมาคมทหารผ่านศึกพิการแห่งประเทศไทย และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอครม.ต่อไป
พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังมอบหมายหน่วยงานไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด และพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ให้มีรายละเอียดครบถ้วนยิ่งขึ้น ดังนี้
“นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายในที่ประชุมให้เร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องแนวเขตที่ดินของรัฐทับซ้อนกันให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเน้นว่า การทำงานของกทช.ไม่ว่ากรณีของป่ารุกคนหรือคนรุกป่า การพิสูจน์สิทธิขอให้เน้นเรื่องความเป็นธรรมกับประชาชน โดยเฉพาะในกรณีที่พิสูจน์สิทธิแล้วอยู่หลังการเป็นที่ดินของรัฐ ก็ให้อยู่ในตะกร้าในพื้นที่ของคทช. โดยผ่านการกลั่นกรองของคทช.จังหวัด” นางรวีวรรณ กล่าว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยมีความคืบหน้า ดังนี้