ครม.ถกวาระลับปมพิพาท เหมืองทองอัครา “วิษณุ” ยัน Set Zero ไม่ได้

02 ส.ค. 2565 | 08:10 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2565 | 15:16 น.

ครม.ถกวาระลับ ปมข้อพิพาท “เหมืองทองอัครา”แก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด ยันเรื่องอยู่ในชั้นการเจรจา ก่อนอนุญาโตตุลาการชี้ขาดสิ้นปี รองนายกฯ “วิษณุ” ระบุจะให้ยกเลิกมาตรา 44 แล้ว Set Zero คงทำไม่ได้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด กรณีเหมืองทองอัครา เสนอโดยกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว

 

“การรายงานความคืบหน้าครั้งนี้เป็นไปตามปกติเหมือนที่เคยทำมา เพราะกระทรวงอุตสาหกรรม จะรายงานเรื่องนี้มายังที่ประชุมครม.เป็นประจำทุกเดือน ว่ามีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง และที่ประชุมก็รับทราบไม่ได้มีข้อติดขัด หรือข้อห่วงใยอะไร”

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

 

ทั้งนี้ยอมรับว่า ความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว ล่าสุดยังอยู่ในขั้นของการเจรจาเพื่อประนอมข้อพิพาทระหว่างไทย กับ คิงส์เกต ตามคำแนะนำของอนุญาโตตุลาการ และจะชี้ขาดอีกครั้งในช่วงสิ้นปี 2565 ดังนั้นในระหว่างนี้ก็คงต้องรอข้อสรุปผลการเจาจาออกมาก่อนว่าจะเป็นอย่างไร

 

นายวิษณุ ยอมรับว่า ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนแนวโน้มจะเป็นอย่างไรนั้น ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เพราะอนุญาโตตุลาการยังไม่ชี้ขาด ดังนั้นในช่วงนี้ก่อนที่จะไปถึงสิ้นปี ถ้าผลการเจาจาเป็นที่น่าพอใจ เขาก็อาจถอนเรื่องออกจาก อนุญาโตตุลาการได้ แต่ก็ต้องรอข้อสรุปอีกที

ขณะที่กรณีของฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยเสนอแนวทางการแก้ปัญหาด้วยการให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 72/2559 นั้น รองนายกฯ ระบุว่า ไม่สามารถทำได้ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีใครพูดถึงเรื่องนี้ 

 

“เรื่องมาตรา 44 ไม่มีใครคุยถึงเรื่องนี้ และคงจะทำไม่ได้ โดยกรณีที่ฝ่ายค้านมองว่าให้ยกเลิกแล้วจะนำไปสู่การ Set Zero นั้น คงไม่ใช่แบบนั้น เพราะทุกอย่างมันเดินหน้าไปแล้ว และคงไม่เหมือนเดิม” รองนายก ยืนยัน

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า การเสนอเรื่องดังกล่าวมาให้ที่ประชุมครม.พิจารณานั้น แม้จะเป็นการรายงานเพื่อทราบ แต่ก็เป็นเอกสารลับริมแดง ที่เสนอเข้ามาในช่วงการประชุมและเมื่อที่ประชุมมีมติรับทราบแล้วก็เก็บเอกสารดังกล่าวคืนทันที โดยความคืบหน้าของการแก้ปัญหาข้อพิพาท ที่ประชุมได้รับทราบว่า น่าจะเจรจากันจบก่อนที่ถึงเวลาการชี้ขาดจากอนุญาโตตุลาการ