นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับกรณีการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) หลังมีการเปิดซองที่ 1 ข้อเสนอด้านคุณสมบัติ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น บริษัทฯมองว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นสายที่มีการประมูลแล้วมีปัญหาอย่างจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าศาลปกครองจะมีการพิพากษาไปแล้วว่าการเปลี่ยนหรือยกเลิกทีโออาร์ที่ให้ประมูล ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ยังเดินหน้าต่อถือว่าเป็นสิทธิ์ของท่าน
“จากเดิมที่มีความตั้งใจจะเข้าร่วมประมูลสายสีส้มนั้น แต่ครั้งนี้เราไม่เข้าร่วมประมูล เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และรู้สึกว่าเมื่อดูทีโออาร์แล้วไม่มีโอกาสเลยที่บีทีเอสจะเข้าไปประมูลได้ เพราะไม่ผ่านเกณฑ์แน่นอน หลังการศึกษารายละเอียดข้อกำหนดในเอกสารประกวดราคา (RFP) ฉบับใหม่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่มีข้อกำหนดคุณสมบัติแบบเลือกผู้รับเหมา เนื่องจากบริษัทที่เป็นพันธมิตรครั้งที่แล้วได้ยื่นประมูลไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถหาพันธมิตรได้ทัน อาจจะอ้างว่าไปร่วมกับเอกชนรายอื่นได้ แต่เราดูแล้วไม่น่าจะทำได้ เพราะผู้รับเหมาเตรียมตัวไม่ทัน เมื่อถามว่าเป็นการกีดกันหรือเปล่า ข้อนี้ไม่ขอตอบ”
นายคีรี กล่าวต่อว่า บ้านเมืองเรามีกฎหมาย ความถูกต้องและความยุติธรรม มองว่าการประมูลรอบนี้เป็นการกีดกันหรือไม่ ควรให้กฎหมายบ้านเมืองและศาลเป็นผู้ตัดสิน อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าเรื่องนี้เห็นชัดเจนมาก เสียดายที่โครงการดีๆเกิดปัญหาล่าช้ามาหลายปีๆ และผู้ที่เสียประโยชน์ที่สุดคือประชาชน
“อย่าลืมว่าที่ผ่านมาบีทีเอสต่อสู้และฟ้องร้องอย่างไร สิ่งที่อยากได้มากที่สุดคือ ความยุติธรรมในการประมูลอย่างปกติ ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ของภาครัฐก็ดำเนินการประมูลในลักษณะเดิมมาตลอด ใครให้ผลประโยชน์กับบ้านเมืองมากที่สุดก็เป็นผู้ชนะ ผมต้องการแค่นั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชนะในการร้องเรียนหรืออะไร ก็ยังไม่ใช่ผู้ชนะสำหรับการได้รับสัมปทานโครงการฯ ไม่ใช่ว่าออกทีโออาร์เดิมตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม) แม้แต่ศาลพิพากษาไปแล้วว่าไม่ชอบ แต่ยังมีการดำเนินการประมูลต่อ อันนี้ก็ต้องพึ่งพาทางกฎหมายขอร้องเถอะครับ ว่ามาประมูลโครงการใหญ่ที่ดีและเป็นธรรมเพื่อแป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมากที่สุด”
นายคีรี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาบริษัทมีการประมูลโครงการฯแล้วในครั้งแรก แต่ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูล เมื่อถึงวันหนึ่งบริษัทจะเปิดเผยให้ประชาชนทราบว่าราคาการประมูลของบริษัทเป็นอย่างไร หากมีการชนะการประมูลโดยราคาที่แปลกประหลาด ก็ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตรวจสอบ บริษัทมองว่าใครเสียผลประโยชน์และใครทำอะไรอยู่ ขอเพียงอย่างเดียวให้การประมูลอย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติมากที่สุด
“ส่วนกรณีที่บีทีเอสมีข้อพิพาทกับ รฟม.และจะเข้าร่วมการประมูลในครั้งต่อไปหรือไม่นั้นมองว่า รฟม.เป็นองค์กรของรัฐบาล ของประเทศชาติ บริษัทไม่กลัวว่าจะเป็นคู่ต่อสู้หรือทำให้เขาผิดใจหรือไม่ มาได้ก็ไปได้ ท่านก็อยู่ให้ค้ำฟ้าก็แล้วกัน ถ้าประชาชนคิดว่าสิ่งที่บริษัทขอเป็นเรื่องที่ถูกต้องในการประมูลให้เท่าเทียมกัน ก็ขอให้สนับสนุนบริษัทด้วย”