ค่าไฟขึ้น 2565 เดือนไหน ต้องจ่ายกี่บาทต่อหน่วย เพราะอะไร เช็คเลย

04 ส.ค. 2565 | 09:28 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ส.ค. 2565 | 16:28 น.

ค่าไฟขึ้น 2565 เดือนไหน ต้องจ่ายกี่บาทต่อหน่วย เพราะอะไร เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หลัง กกพ. เตรียมประกาศค่าเอฟทีอย่างเป็นทางการ

ค่าไฟขึ้น 2565 เดือนไหน กี่บาท เป็นคำถามที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก  หลังจากที่จากเดิมสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลัง (สำนักงาน กกพ.) จะต้องประกาศค่าไฟฟ้าผันแปรอัติโนมัติ หรือค่าเอฟที (FT) งวดสุดท้าย (ก.ย.-ธ.ค.) ของปีนี้ แต่มีการขยับเลื่อยนวันแถลงข่าวออกไปจากวันที่ 1 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” จะพาไปไขคำตอบในประเด็นดังกล่าว เพื่อคลายข้อสงสัย

 

สำหรับอัตราค่าเอฟทีงวด ก.ย.-ธ.ค. นั้น ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า จะมีการปรับขึ้นในอัตรา 68.66 สตางค์ต่อหน่วยจากงวดที่ผ่านมา เป็นอัตราที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย จากคำพูดของ นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ซึ่งระบุด้วยว่า

 

ได้แจ้ง 3 การไฟฟ้า ประกอบการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ,การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ถึงมติของคณะกรรมการ กกพ.ในการเห็นชอบค่าเอฟทีดังกล่าว 

เมื่อรวมค่าไฟฐานเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4.72 บาทต่อหน่วย โดยถือว่าซึ่งนับว่าเป็นอัตราสูงสุด (นิวไฮ) ของค่าไฟฟ้าประเทศไทย ซึ่งการประกาศเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน โดยอัตราดังกล่าวเป็นการสะท้อนต้นทุนเชื้อเพลิงเท่านั้น ยังไม่มีการชำระหนี้ค่าเชื้อเพลิงให้ กฟผ. ที่ประมาณ 83,010 ล้านบาทแต่อย่างใด

 

ค่าไฟขึ้น 2565 เดือนไหน ต้องจ่ายกี่บาทต่อหน่วย

 

อัตราค่าเอฟทีดังกล่าวเป็นไปตามที่สำนักงาน กกพ.ได้จัดรับฟังความเห็นให้แก่ประชาชนเลือกใน 3 แนวทาง โดยแนวทางที่เลือกคือแนวทางที่ต่ำสุด และ กฟผ.ได้ให้ความเห็นในการเลือกแนวทางดังกล่าวด้วยเพื่อลดผลกระทบประชาชนให้น้อยที่สุด 
 

 

ซึ่งงวดนี้เท่ากับ กฟผ.จะรับภาระค่าส่วนต่าง ระหว่าง ค่า FT ที่เกิดขึ้นจริง กับค่า FT เรียกเก็บสะสมของงวดที่ผ่านมา แทนผู้ใช้ไฟฟ้าไปก่อน ซึ่งประเมินรวมทั้งหมดแล้วประมาณ 1 แสนล้านบาท และไม่สามารถรับภาระเพิ่มเติมสำหรับค่าเชื้อเพลิงสำหรับงวดใหม่ได้

อย่างไรก็ดี สำนักงาน กกพ. จะจัดให้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการภายใต้หัวข้อ “ชี้แจงตอบข้อซักถามค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) รอบเดือนกันยายน – ธันวาคม 2565” ในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) 
 

 

อย่างไรก็ดี นายคมกฤช ยังส่งสัญญาณด้วยว่า ค่าไฟฟ้าในงวด ม.ค.-เม.ย. 66 ยังคาดว่าจะเป็นขาขึ้นและมีราคาสูง โดยราคาจะลดลงได้ ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าแหล่งก๊าซฯ เอราวัณจะเพิ่มกำลังผลิตก๊าซฯ ได้ตามแผนหรือไม่ หากได้ตามแผนก็จะทำให้ลดการพึ่งพานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)