จี้ทบทวนเส้นเสียงใหม่”บ้านฉาง”รวมพลค้านEHIAรันเวย์2อู่ตะเภา
แ ชาวบ้านตำบลสำนักขาม บ้านฉาง รวมพลค้านการทำ จี้ทบทวนเส้นเสียงใหม่”บ้านฉาง”รวมพลค้านEHIAรันเวย์2อู่ตะเภาเหลือบ้านที่เดือดร้อนไม่ถึง 100 ราย จากเดิมเกือบ500 ราย จี้สำนักงานการบินพลเรือนนทบทวนเส้นเสียงรันเวย์อู่ตะเภา 2 ใหม่
วันที่ 4 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 10.00 น.ที่อาคารอเนกประสงค์ ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งกำลังเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย และประชาชนและชุมชนที่เกี่ยวข้อง โครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
ได้มีประชาชนชาวตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง กว่า 200 คน นำโดย นายเชาวลิตร ร่มรื่น กำนันตำบลสำนักท้อน นายประเสริฐ แสงใหญ่ ตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงและมลพิษทางอากาศ จากการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ได้ขึ้นเวทีปราศรัย ที่บริเวณด้านหน้าอาคารฯ ร่วมกันคัดค้านการทำEHIA รวมถึงการทำแผนที่เส้นเสียง ขอให้มีการทบทวนโครงการศึกษาความเหมาะสมโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และ ปัญหาด้านเสียงดังจากเครื่องบินขึ้นลง และ ก๊าซพิษ
โดยกลุ่มประชาชนผู้ร่วมชุมนุม ได้ยืนถือป้ายข้อความต่างๆ เช่น EEC ถ้ารายงานผลกระทบไม่ครอบคลุมเป็นธรรมก็ไม่ต้องมาสร้าง ชาวสำนักท้อนคัดค้านรายงานผลกระทบEHIA เราชาวสำนักท้อนขอเรียกร้องให้ทบทวนแผนที่เส้นเสียงใหม่โดยชาวบ้านต้องมีส่วนร่วมในการทบทวนด้วย เป็นต้น
นายเชาวลิต ร่มรื่น กำนันตำบลสำนักท้อน กล่าวว่า ตนเองในฐานะผู้ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการทำแผนที่เส้นเสียงครั้งล่าสุด ที่เหลือบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ลดลงจากครั้งก่อน 480 ราย เหลือเพียง 93 ราย จึงทำให้ชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้กับการทำแผนที่เส้นเสียงในครั้งนี้ ต้องการให้ทบทวนโครงการออกไปก่อน
ทั้งนี้ ไม่ได้คัดค้านโครงการสนามบินอู่ตะเภา และ อีอีซี แต่เป็นการคัดค้านเพื่อความเป็นธรรม เพราะทุกวันนี้ต่างก็ได้ผลกระทบจากเสียงขณะขึ้นลงของเครื่องบินที่วัดได้ถึง 80 เดซิเบล สูงกว่าค่ามาตรฐาน การสั่นสะเทือนของหลังคาบ้าน และตัวบ้านทำให้เกิดการร้าวของตัวบ้าน และ หลังคาพัง
สำหรับสนามบินอู่ตะเภามีเครื่องบินขึ้นลงทุกนาที จึงต้องการให้ทบทวน เพราะเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปแล้วแต่เรื่องก็เงียบ จึงต้องการให้มองเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นหลัก
ด้านนายประเสริฐ แสงใหญ่ ตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงและมลพิษทางอากาศ ได้ กล่าวว่า การมารวมตัวของชาวบ้านในวันนี้ เพื่อยื่นหนังสือให้กับผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อขอเรียกร้องให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานอนุมัติโครงการพัฒนาอู่ตะเภา ทบทวนและชะลอการอนุมัติโครงการนี้ออกไป จนกว่าจะมีการทบทวนแผนที่เส้นเสียงใหม่ โดยต้องการให้มีตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำแผนที่เส้นเสียงใหม่ เพราะชาวบ้านมีความกังวลเรื่องของการบิดเบือนข้อมูล
จึงขอให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย พิจารณาข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
1.ชะลอการอนุมัติการพิจารณาอนุมัติโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา(ทางวิ่งและทางขับ2)
2.ยกเลิกแผนที่เส้นเสียงจากรายงาน EHIA ฉบับล่าสุด แม้จะผ่านความเห็นชอบแล้วก็ตาม
3.ทำแผนที่เส้นเสียงใหม่ โดยมีสถาบันที่น่าเชื่อถือ และ ตัวแทนชาวบ้านผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วมในการทำแผนที่เส้นเสียงใหม่
4.การทำแบบจำลองแผนที่เส้นเสียง จะสร้างความเป็นธรรมและครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบ จะต้องมีการนำข้อมูลจริงโดยไม่มีการบิดเบือน ต้องเปิดเผยและพิสูจน์ได้
ด้านนายพลากร สุนทรวงศ์ อายุ 37 ปี บอกว่า ตนเองอยู่หมู่บ้านชมชื่น มีหลายร้อยหลังคาเรือน ได้รับผลกระทบอย่างมากกับเรื่องเสียงของเครื่องบินที่สร้างความเดือดร้อน เพราะบินต่ำมาก ถ้าคนบนเครื่องบินโบกมือมา เราก็เห็นชัดเจน ทีวีก็ดูไม่ชัด เรื่องเสียงดังและการสั่นสะเทือน จึงหนีไม่พ้น นับเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านอย่างมาก
เช่นเดียวกับนายพฤหัส คุ้มเดช อายุ 52ปี หมู่บ้านเชิงเขาพัฒนา ม.3 ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง บอกว่า เรื่องเสียงที่เกิดปัญหานี้อยากให้แก้ไขให้ถูกต้อง โดยครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบนั้นมากกว่าที่กำหนดให้พูดคุยหาทางช่วยเหลือครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจริงเสียก่อน ซึ่งมากกว่า 93 ครัวเรือนตามที่กำหนดไว้
ต่อมานายประเสริฐ พร้อมด้วยชาวบ้านทั้งหมด ได้ถือป้ายพร้อมตะโกนคัดค้าน และให้ทบทวน เดินขบวนไปยังศาลาเอนกประสงค์ ข้างจุดที่รวมตัว ซึ่งกำลังมีการจัดทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยยื่นหนังสือคัดค้านให้กับนาวาอากาศเอก สุชาติ อ่างทอง ประธานคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็น ที่เป็นประธานในการรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน ซึ่งมีชาวบ้านมาร่วมรับฟังประมาณ 20 คน
หลังจากได้รับหนังสือ นาวาอากาศเอกสุชาติ กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้เพื่อเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา ซึ่งไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ต้องรอการพิจารณาก่อน สำหรับวันนี้เป็นการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้าย เกี่ยวกับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา
อัจฉรา/ภัทราพร วิเศษศรี/รายงาน