รายงานข่าวจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เผยว่า วันที่ 7 ส.ค. 2565 นายอิต ซอมเฮง (H.E.Dr.Ith Somheng) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและฝึกอาชีพ ประเทศกัมพูชา พร้อมด้วย นายอูก ซอร์พวน (H.E. Mr.Ouk Sorphorn) เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย พร้อมคณะได้เดินทางเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา ของ CPF และเพื่อพบปะพนักงานชาวกัมพูชา กว่า 2,000 คน
ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานชาวกัมพูชามีความเป็นอยู่ที่ดี และได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม สอดคล้องกับกฎหมายแรงงานและข้อกำหนดมาตรฐานสากล โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับนายศรกฤษณ์ วัตตศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านบริหารทรัพยากรบุคคล ธุรกิจสัตว์บก และ นายปิโยรส ธรรมจารึก รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจไก่เนื้อเป็ดเนื้อครบวงจร ซีพีเอฟและพนักงานชาวกัมพูชา ให้การต้อนรับ ณ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา
นายอิต ซอมเฮง กล่าวว่า การมาเยี่ยมชมและพบปะชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย เป็นภารกิจของรัฐบาลกัมพูชาในการติดตามดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวกัมพูชาที่ทำงานในต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกัมพูชาให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านแรงงานอย่างจริงจัง ส่งผลให้ชาวกัมพูชามีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศทั้งสองแบบ win-win และขอขอบคุณ CPF และชาวจังหวัดนครราชสีมาที่ช่วยกันดูแลแรงงานชาวกัมพูชาเหมือนญาติพี่น้อง
นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า กิจกรรมพบปะพนักงานชาวกัมพูชาที่ CPF ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานฯ และท่านทูตของกัมพูชา มีส่วนช่วยตอกย้ำว่าประชาชนชาวกัมพูชาที่มาทำงานในจังหวัดนครราชสีมาได้รับการจัดจ้าง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาเองได้ลงพื้นที่และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติต่อพนักงานและแรงงานของซีพีเอฟอยู่เป็นประจำ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคธุรกิจมีการดูแลและปฏิบัติต่อพนักงานชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในจังหวัดประมาณกว่า 15,000 คน สอดคล้องตามมาตรฐานแรงงาน แรงงานทุกคนได้รับการคุ้มครอง ซึ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดนครราชสีมาในฐานะเป็นบ้านหลังที่สองของพี่น้องชาวกัมพูชา และช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นขึ้น
นายศรกฤษณ์ วัตตศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านบริหารทรัพยากรบุคคล ธุรกิจสัตว์บก ซีพีเอฟ กล่าวว่า โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ นครราชสีมา พนักงานชาวกัมพูชานับเป็นกำลังสำคัญในกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัยได้มาตรฐานสากล ซีพีเอฟมีนโยบายจัดจ้างแรงงานต่างชาติทุกคนเป็นพนักงานของบริษัท โดยโรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมามีพนักงานทั้งหมดประมาณ 8,800 คน เป็นชาวกัมพูชาอยู่ 2,268 คน ทำงานร่วมกับพนักงานคนไทย 6,600 คน
โดย ซีพีเอฟ ได้บริหารจัดการแรงงานตามหลักการ 3P ประกอบด้วย Policy – Practices – Partnership มีการบริหารจัดการแรงงานตามมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001-2563) สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านแรงงานต่างๆในระดับสากล ตลอดจนมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ สมาคม และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันว่าบริษัทฯ ได้มีการปฏิบัติที่ดีต่อแรงงานทุกคนทุกสัญชาติ และร่วมยกระดับมาตรฐานด้านแรงงานในอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ
โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา มีการจัดจ้างและให้สวัสดิการแก่แรงงานกัมพูชาอย่างเท่าเทียม พร้อมจัดหอพักและรถรับส่ง รวมทั้งการจ้างล่ามไว้คอยสื่อสารและให้ความช่วยเหลือกับแรงงานทั้งในเรื่องการทำงานและชีวิตความเป็นอยู่ บริษัทฯ ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ มูลนิธิ LPN จัดทำช่องทางรับฟังเสียงพนักงานฮอทไลน์ Labour Voice by LPN ซึ่งเป็นองค์กรกรกลางที่พนักงานชาวกัมพูชาของซีพีเอฟสามารถพูดคุยขอคำปรึกษาและร้องเรียนด้วยภาษากัมพูชา และจัดอบรมเรื่องสิทธิมนุษยชนให้พนักงานได้มีความรู้และเข้าใจสิทธิแรงงาน ความปลอดภัยในการทำงานช่วยส่งเสริมบรรยากาศการทำงานที่มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ยอมรับในความแตกต่าง
“ซีพีเอฟยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาให้ความใส่ใจกับคุณภาพชีวิตของแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย และ การจัดกิจกรรมพบปะแรงงานกัมพูชาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลและประชาชนชาวกัมพูชา และนานาประเทศเรื่องการจัดจ้างและดูแลแรงงานต่างชาติของซีพีเอฟด้วย” นายศรกฤษณ์ กล่าว
ด้าน นายเมียส มับ พนักงานชาวกัมพูชาที่ทำงานกับซีพีเอฟมาเป็นปีที่ 9 เริ่มต้นจากจากการเป็นพนักงานในไลน์การผลิต และสามารถพัฒนาทักษะต่อเนื่อง วันนี้เป็นเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมพนักงานต่างชาติก่อนเข้าทำงาน กล่าวว่ารู้สึกยินดีและขอบคุณท่านรัฐมนตรีแรงงานฯ กัมพูชา และท่านทูตกัมพูชาที่ใส่ใจและเสียสละเวลาเดินทางมาพบปะพูดคุยกับพี่น้องชาวกัมพูชาถึงที่ทำงาน ซึ่งช่วยให้ครอบครัวและเพื่อนที่กัมพูชาได้เห็นว่าคนที่มาทำงานที่ซีพีเอฟได้รับการปฏิบัติที่ดีและเท่าเทียม และมีความสุขมาก