รายงานข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที (Ft) งวดใหม่ ก.ย.-ธ.ค.65 เพิ่มขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ประชาชนต้องจ่าย 4.72 บาทต่อหน่วย แต่ทาง กกพ.ได้เลื่อนการชี้แจงการปรับขึ้นราคามาแล้ว 2 ครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวรัฐบาลเบรกการชี้แจงปรับขึ้นราคา
และให้กลับไปทำมาตรการเยียวยา สร้างความสับสนให้กับประชาชนอย่างมากว่า ค่าไฟงวดใหม่วันที่ 1 ก.ย. จะปรับขึ้นตามมติเดิมหรือไม่ หรือมีแนวโน้มปรับลดลง โดย กกพ.ยืนยันว่า ได้ส่งเอกสารทุกอย่างให้ 3 การไฟฟ้า ซึ่งมีผลทางกฎหมายไปแล้วตั้งแต่ 27 ก.ค.เป็นต้นมา
ทั้งนี้ ตามหลักการแล้วหากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ก็สามารถออกเป็นมาตรการเยียวยาประชาชนแยกส่วนออกมาเหมือนทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องกลับมติการปรับขึ้นค่าไฟครั้งนี้
“กกพ.ส่งเอกสารจบไปแล้ว ดูด้วยเหตุด้วยผลต่างๆ ถ้าไม่ขึ้นการไฟฟ้าต้องแบกรับภาระ ซึ่งจะกระทบกับความมั่นคงพลังงานในอนาคต เวลานี้ปัญหาอยู่ที่ไม่มีเงิน หากรัฐบาลสามารถหาเงินมาแบกแทนได้แบบทุกครั้ง แล้วโยนโจทย์ให้ กกพ.ช่วย กรณีนี้ช่วยคิดได้ หากถามว่าจะกลับมติจากเดิมได้หรือไม่ เรื่องนี้ไม่จำเป็น และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
อย่างไรก็ดี ควรปล่อยให้ค่าเอฟทีเป็นไปตามแนวทางของค่าเอฟทีไป หลังจากนั้นค่อยแยกส่วนให้รัฐบาลหาเงินมาเติมออกมาตรการช่วยเหลือ โดย กกพ.ไม่ควรพูดเรื่องมาตรการช่วยเหลือ เพราะเป็นเงินของรัฐบาล เรื่องปรับสูตรใครใช้มากจ่ายมาก ใช้น้อยจ่ายน้อย ไม่ใช่เรื่องง่าย ทำออกมาแล้วไม่รู้ว่า ทำได้หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะทำมาตรการคล้ายเดิม คือต่ออายุมาตรการดูแลผู้ใช้ไฟที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้า ซึ่งต้องรอให้รัฐสรรงบประมาณมา เท่าที่รู้ตอนนี้กระทรวงพลังงานกำลังทำมาตรการช่วยเหลือต่างๆ อยู่ หากทันคาดว่า สัปดาห์หน้าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาได้