ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 ส.ค. 2565 เมื่อเวลา 09.45 น. พลเอก สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่สอง พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา เดินทางลงพื้นที่บ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด จ.ตราด เพื่อศึกษาดูงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างไทย–กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด หลังจังหวัดตราดผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรที่บ้านท่าเส้น เพื่อเชื่อมกับจุดผ่านแดนถาวรบ้านทมอดา อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต ของกัมพูชา
เมื่อถึงบริเวณหน้าด่านกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธิน ที่ 513 เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจนายิกโยธินตราด และหน.กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 513 พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต้อนรับ และบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดน และปัญหาความขัดแย้งในเรื่องเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ในพื้นที่ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด จ.ตราด ที่มีอยู่ 17 จุด และทางหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดได้ทำหนังสือประท้วง และทำการหารือกับฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ซึ่งได้มีการรื้อถอนไปบางส่วนแล้ว
แต่จุดที่ยังเป็นปัญหาใหญ่ก็คือ อาคารโรงแรมที่ทำเป็นกาสิโนสร้างเข้ามาในพื้นที่สันปันน้ำ ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาลไทยได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว ทั้งนี้ นโยบายของผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เห็นด้วยกับการเปิดจุดผ่านแดนที่บ้านท่าเส้น แต่ควรจะเริ่มจากจุดผ่อนปรนก่อน แล้วเมื่อเติบโตขึ้นจึงค่อยยกขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคตได้
กรรมาธิการฯ หลายคนได้สอบถามสถานการณ์ในหลายมิติ ทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยว รวมทั้งผลประโยชน์ที่ฝ่ายไทยได้รับ ซึ่งพบว่า จะเกิดประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยวและด้านการลงทุน ที่จะเชื่ยมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษของจ.ตราดด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องเขตแดนที่ยังไม่ชัดเจนนั้น ในพื้นที่สามารถเจรจาหาข้อยุติได้บางจุดแล้ว แต่ในจุดใหญ่จะต้องให้ฝ่ายรัฐบาลดำเนินการระหว่างรัฐบาลต่อไป
จากนั้น พลเอก สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง นำคณะเดินทางมาสังเกตการณ์พื้นที่ (อาคารโรงแรม) ที่มีการรุกล้ำมาในเขตสันปันน้ำด้วย และได้กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อเก็บข้อมูลในพื้นที่ ว่ามีความพร้อมและมีอุปสรรคอย่างไร ส่วนเรื่องความพร้อมในการเปิดนั้นอยู่กับฝ่ายบริหาร แม้มติครม.จะมีมติให้เปิดแล้วก็ตาม ทางกรรมาธิการเพียงนำข้อเสนอแนะให้เท่านั้น หลังจากนั้นคณะกรรมาธิการต่างประเทศวุฒิสภาเดินทางกลับโดยเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2565 นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นำหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชน ร่วมให้ข้อมูลกับพลเอก สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภา ในแต่ละด้าน ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด
สำหรับการเดินทางลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด ในครั้งนี้ หน่วยที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูล ทั้งด้านความมั่งคง ด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเด็นการค้าชายแดนด้านจังหวัดตราด ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนประมาณ 28,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังได้รับทราบด้านแรงงานในเรื่องการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามกฎหมาย รวมไปถึงด้านการท่องเที่ยว ระหว่างไทย – กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด
หลังการประชุม คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เพื่อศึกษาการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรแห่งนี้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้มีดำริให้มีการขยายช่องประตูระหว่างแดนในฝั่งไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ในการเดินทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศผ่านจุดผ่านแดนถาวรแห่งนี้อีกด้วย