นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน วันนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเรื่องสำคัญหลายเรื่อง
เรื่องแรก ที่ประชุมเห็นชอบให้แต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากมีอายุครบวาระ 5 ปี ตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 โดยได้มีมติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ต่อไปอีกหนึ่งวาระ คือ
ทั้งนี้ที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2566-2580) ฉบับปรับปรุง โดยยังคงจำนวนเป้าหมายประเด็น จำนวน 37 เป้าหมาย และจำนวนเป้าหมายแผนย่อยเท่าเดิม ทั้ง 140 เป้าหมาย พร้อมกับเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ ในระยะถัดไป
โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้หน่วยงานของรัฐต้องเร่งปรับประบวนทัศน์การทำงาน ทำความเข้าใจหลักการและแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติ ที่ยึดเป้าหมายแผนแม่บทย่อย ใช้หลักการ “พุ่งเป้า” และมอบหมายสำนักงานฯ ดำเนินการตามผลการพิจารณา พร้อมปรับปรุงร่างแผนฯ ให้มีความครบถ้วน สมบูรณ์ ก่อนเสนอต่อครม. พิจารณา
พร้อมกันนี้ เห็นชอบโครงการเพื่อขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 1,026 โครงการ จากข้อเสนอทั้งหมด 2,619 โครงการ รวมทั้งเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการในระยะถัดไป
ขณะเดียวกันยังเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการภายหลังการสิ้นสุดของแผนปฏิรูปประเทศ โดยแนวทางการขับเคลื่อนฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานของรัฐนำประเด็นการปฏิรูปประเทศไปดำเนินการต่อเนื่อง และให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการทบทวน ยกเลิก กฎระเบียบ ข้อบังคับ กลไก และคณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศด้วย
นอกจากนี้ยังเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผลแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ( 2566-2570) ประกอบด้วย คณะกรรมการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 จำนวน 5 คณะ มีอำนาจหน้าที่หลักในการกำหนดนโยบายและแนวทางในการขับเคลื่อนฯ ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ ได้ย้ำในที่ประชุมว่าการประชุมวันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่เป็นการวางยุทธศาสตร์ของประเทศ ว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ให้ขับเคลื่อนได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
พร้อมกล่าวฝากให้ภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคธุรกิจเอกชน ต้องร่วมมือกันเดินหน้าต่อไปให้ได้ ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาขอขอบคุณทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด สิ่งที่เป็นความท้าทายวันนี้คือทำอย่างไรให้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นรูปธรรมให้ได้ โดยทุกคนต้องมาช่วยกันทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า มุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือประเทศชาติและประชาชน เพื่อนำยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติให้ได้ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามห้วงเวลา