นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 1,576 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการด้านการบริหารจัดการน้ำ 2 โครงการ ดังนี้
วงเงินงบกลางก้อนแรก ใช้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2565 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี 2565/66 เพิ่มเติม 576 โครงการ มีกรอบวงเงิน 911.71 ล้านบาท
ทั้งนี้จะเป็นการดำเนินการภายใต้ 3 กระทรวง 7 หน่วยงาน ดังนี้
ทั้งนี้ เมื่อโครงการต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จนั้น จะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 3,542 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ประมาณ 542 ครัวเรือน ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 3.32 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถกำจัดผักตบ/วัชพืชน้ำได้ถึง 97,988 ตัน รวมถึงจะมีการซ่อมแซม/ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ให้ใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์อีก 9 แห่งด้วย
เงินงบกลางอีกก้อน มีวงเงิน 663.87 ล้านบาท ให้กรมชลประทาน จัดหาเครื่องจักรกลสูบน้ำ 203 เครื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานมีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการจัดหาเครื่องจักรกลสูบน้ำ ที่มีสมรรถนะสูงและมีคุณลักษณะเฉพาะ ตรงกับความจำเป็นใช้งานเพียงพอพร้อมสนับสนุนภารกิจของกรมชลประทาน เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพปฏิบัติงานป้องกันความเสียหาย และบรรเทาภัยที่เกิดจากน้ำให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังเป็นการทดแทนเครื่องสูบน้ำที่มีอายุการใช้งานมากและมีประสิทธิภาพการทำงานต่ำ ซ่อมแซมไม่คุ้มค่า รวมทั้งยังเป็นการปรับแผนวิธีการหรือแนวทางการเผชิญเหตุอุทกภัยและภัยแล้ง เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานป้องกันความเสียหาย และบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำ ช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่รวดเร็ว
สำหรับโครงการจัดหาเครื่องจักรกลสูบน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง รวม 3 รายการ โดยเป็นเครื่องสูบน้ำชนิดหอยโข่งขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาดท่อต่างๆ ดังนี้
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ก่อนหน้านี้สำนักงบประมาณ ได้แจ้งว่า งบกลางปี 2565 ปัจจุบันเหลือวงเงินอยู่จำกัดเพียงหมื่นล้านบาท เท่านั้น ซึ่งกันเอาไว้ในการช่วยเหลือเรื่องน้ำเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน 2565 นี้