แหล่งข่าวคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) มีหนังสือขอขยายระยะเวลาโครงการข้าวตามนโยบายของรัฐบาล เป็นเดือนกันยายน 2566 สาระสำคัญ มีข้อความว่าการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายของรัฐใกล้สิ้นสุดระยะเวลาโครงการแล้ว และองค์การฯ ยังคงมีข้าวสารที่ผู้ประกอบการยังไม่ชนย้ายออกจากคลังสินค้า ด้วยสถานการณ์โรคระบาตของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ของประเทศไทยได้ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอยู่ตลอดเวลาจนถึงขณะนี้ จึงทำให้เกิดผลกระทบต่อการขนย้ายข้าวออกจากคลังอย่างมากเช่นกัน
เช่นปัญหาขาดแคลนแรงงาน ปัญหาขาดแคลนรถบรรทุก ฯลฯ ประกอบกับองค์การฯ ยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเบิกจ่ายให้กับคู่สัญญาให้กับคู่สัญญาฯ ให้แก่ ค่าเช่าคลังสินค้า ,ค่าตรวจสอบคุณภาพข้าวภาพข้าวสาร, ค่าดูแลรักษาคุณภาพข้าว,ค่ารมยาและการดำเนินคดีกับคู่สัญญาที่ องค์การฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง จำนวน 246 คดี,คดีอาญา จำนวน 897 คดี ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย รวมถึงการดำเนินการปิดบัญชีโครงการ
ทั้งนี้ใด้จัดทำรายละเอียดผลการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและความคืบหน้าของการดำเนินการทางกฎหมายกรณีคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของรัฐ ตังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงกรรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายรัฐบาลดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และสามารถปิดบัญชีโครงการได้แล้วเสร็จองค์การฯจึงมีความจำเป็นต้องขออนุมัติขยายระยะเวลาโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของ องค์การฯ รวม 6 โครงการ เป็นสิ้นสุดระยะเวลาโครงการวันที่ 30 กันยายน 2566
แหล่งข่าว นบข. กล่าวว่า ในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ดำเนินการระบายข้าว และดำเนินการส่งมอบข้าวสารให้กับผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบทานยอดค่าสินค้าเกษตร กับ ธ.ก.ส. เพื่อนำส่งคืนให้กับ ธ.ก.ส. ตามมติ ครม.ต่อไป
ส่วนการดำเนินคดีปกครองคู่สัญญา จำนวน 90 คดี ,อยู่ระหว่างคดีทางอาญา จำนวน 291 คดี เนื่องจากการดำเนินทางทางกฎหมายมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ทั้งดคีปกครอง คดีอาญา และคดีแพ่งจำนวนมาก ยังไม่แล้วเสร็จ ต้องรอผลคดีจึงยังไม่สามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้ในขณะนี้ หากปิดบัญชีโครงการก่อนที่จะมีคำพิพากษาของศาลอาจเกิดความเสียหายต่อทางราชการได้ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อ.ต.ก. มีความจำเป็นขอขยายระยะเวลาโครงการฯจากเดือนกันยายน 2565 เป็นสิ้นสุดเดืนอกันยายน 2566
แหล่งข่าว นบข. กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่ อ.ต.ก. และ อ.ค.ส. ให้ขยายเวลาต่อ ในที่ประชุมมีข้อคิดเห็นว่า ในการระบายข้าวในคลังกลาง ข้าวนอกคลังกลาง และข้าวนอกบัญชีคลัง ต้องดำเนินการตามมติ ระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายหลายคดี ดังนั้นหากไม่การเสนอความเห็นอื่น เห็นชอบอนุมัติในหลักการระบายข้าวให้สามารถจำหน่ายได้เนื่องจากเก็บไว้จะเกิดความเสียหาย
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 มอบหมายให้ อคส.เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการระบายข้าวคงเหลือในสต๊อกของรัฐให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ถูกต้อง ตามมติ นบข. (27 พ.ค.62) ทั้งนี้หาก อคส. ไม่ดำเนินการหรือดำเนินการล่าช้าหรือปล่อยปละละเลย จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ จะถือว่าเป็นความบกพร่อง ของ อคส. ซึ่งจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น