นายพรพล เอกอรรถพร รักษาการผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ “sacit” เปิดเผยว่าสินค้าหัตกรรมไทยปัจจุบันได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและต่างชาติ สะท้อนให้เห็นว่าเทรนด์ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมและคราฟต์ไทยในขณะนี้ได้รับการตอบรับอย่างแพร่หลาย
เห็นได้จากงานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่13 และ งาน Crafts Bangkok 2022 มียอดการจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมไทยและงานคราฟต์สูงเกือบ 157 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศหลังผ่านผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
"สินค้าที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อ เช่น เครื่องเงิน เครื่องทอง ผ้าไหม ผ้าฝ้าย งานจักสานและเครื่องไม้ และ สินค้าที่ต่างชาติให้ความสนใจมากสุดคือผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ จักสาน เครื่องประดับ เซรามิก และของตกแต่งบ้าน ซึ่ง sacit มีแผนที่จะผลักดันสมาชิกให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมแข่งขันในเวทีสากลต่อไป"
ส่วนแผนสนับสนุนศักยภาพช่องทางการตลาดให้กับสมาชิกเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ จะเน้นสร้างโอกาสทั้งช่องทางออฟไลน์จากการจัดงานแฟร์ และออนไลน์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าจีน ญี่ปุ่น อินเดียและยุโรป
และในปีหน้าจะผลักดันผู้ประกอบการออกงานแฟร์ต่างประเทศ และจับคู่ธุรกิจ หรือ Business Matching เพื่อสร้างตลาดการค้าแบบไร้พรมแดน โดยตลาดสำคัญขณะนี้ เช่น ตลาดตะวันออกกลาง และยุโรป ซึ่งเริ่มนิยมสินค้าจากไทย