thansettakij
ครม.เคาะ ดึงงบกลางฉุกเฉิน 2.8 พันล้าน ให้กยศ. ปล่อยกู้เม.ย.นี้

ครม.เคาะ ดึงงบกลางฉุกเฉิน 2.8 พันล้าน ให้กยศ. ปล่อยกู้เม.ย.นี้

18 มี.ค. 2568 | 06:02 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2568 | 06:53 น.

มติครม.ล่าสุดวันนี้ อนุมัติงบกลาง 2,838 พันล้าน ให้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เริ่มดำเนินการให้กู้ยืมเดือนเมษายน 2568 พร้อมกระตุ้นการชำระหนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ล่าสุด วันอังคารที่ 18 มีนาคม 2568  มีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,838.6492 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

 

งบประมาณดังกล่าวจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาด้วยการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนหรือนักศึกษาของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยครอบคลุมค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพระหว่างการศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการให้กู้ยืมตั้งแต่เดือนเมษายน 2568

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้กำชับให้ กยศ. เร่งดำเนินนโยบายในการกระตุ้นการชำระหนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ตามขั้นตอนทางกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติ เพื่อให้มีเงินเพียงพอต่อการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่มีวงเงินมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 ข้อ 9 (3)

กำหนดให้หน่วยรับงบประมาณนำเรื่องเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วยแล้ว

 

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติ่มจากเว็บไซต์ กยศ. พบสถิติข้อมูลกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ประจำวันที่ 31 มกราคม 2568 พบว่า ปัจจุบันมีผู้กู้ยืมเงินกองทุนรวมทั้งสิ้น 7,157,291 ราย โดยระบุสถานะของผู้กู้ยืมแบ่งได้ดังนี้

 

  • ผู้กู้ที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,583,941 ราย คิดเป็น 51%
  • ผู้กู้ที่อยู่ในช่วงปลอดหนี้ 1,536,081 ราย คิดเป็น 21%
  • ผู้กู้ที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 1,962,779 ราย คิดเป็น 27%
  • ผู้กู้ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ 74,490 ราย คิดเป็น 1%

 

จากการข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่ากว่าครึ่งหนึ่งของผู้กู้ยืม กยศ.ทั้งหมดยังคงอยู่ในกระบวนการชำระหนี้ ในขณะที่มีผู้สำเร็จการชำระหนี้แล้วเพียง 27% ของทั้งหมด

 

 

กยศ. ออกมาตรการลดหย่อนหนี้ 

 

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ประกาศมาตรการลดหย่อนหนี้เพื่อจูงใจให้ผู้กู้ยืมชำระเงินคืน โดยมอบสิทธิประโยชน์แก่ผู้กู้ยืม 2 กลุ่ม ได้แก่

 

1. ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างระยะเวลาปลอดหนี้ (ภายใน 2 ปีหลังสำเร็จการศึกษา)

  • ลดต้นเงิน 10% ของต้นเงินคงเหลือ เมื่อชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว
  • ลดเงิน 5% ของเงินที่ชำระ สำหรับผู้ที่ชำระหนี้บางส่วนระหว่างวันที่ 1 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2568 (ไม่ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ)

 

2. ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ (ที่ กยศ. ยังไม่ฟ้องคดี)

  • ลดต้นเงิน 10% ของต้นเงินคงเหลือ สำหรับผู้ที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้และชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว
  • ลดต้นเงิน 7% ของต้นเงินคงเหลือ สำหรับผู้ที่เคยผิดนัดชำระหนี้แต่ปัจจุบันอยู่ในสถานะไม่ผิดนัดและชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว
  • ลดต้นเงิน 5% และลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้ที่มีสถานะผิดนัดชำระหนี้และชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว

ผู้กู้ยืมที่สนใจสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2568

 

ทั้งนี้ มาตรการนี้ไม่ครอบคลุมผู้กู้ยืมโครงการ Human Capital และผู้กู้ยืมที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว