นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ที่จัดขึ้นช่วงปลายปีที่ผ่านมา พบว่ามียอดจองอสังหาริมทรัพย์กว่า 6,000 ยูนิต แต่พบว่า 40% ไม่ผ่านขั้นตอนการขอสินเชื่อ เหลือเพียง 2,000 ยูนิตเท่านั้นที่ได้รับการอนุมัติ แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้น
ทั้ง ปัจจุบันสถานการณ์ขายบ้านในเมืองไทยมีแนวโน้มปรับลดลดลง และสัดส่วนหนี้ภาคอสังหาเมื่อเทียบกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศไทย ซึ่งวันนี้ใกล้แตะ 20 ล้านล้านบาท แต่ภาคอสังหาอยู่ในสัดส่วนไม่ถึง 20% ถือว่าน้อยมาก ซึ่งตัวเลขจริงๆ ตามความต้องการมีที่อยู่อาศัยนั้น ควรอยู่ที่ระดับ 30%
“ประเทศไทยนั้น รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจเต็มที่ แน่นอนว่า ภาคอสังหาเป็นเครื่องจักรที่ใหญ่ และไม่ได้เดินเต็มสูบมานานกว่า 10 ปีแล้ว ชี้วัดจากอัตราการเติบโตของจีดีพีประเทศ ไม่ถึง 2% ซึ่งต่ำกว่าในภูมิภาคที่อยู่ 4-6% ถือว่าต่ำน้อยกว่าศักยภาพของประเทศไทย“
อย่างไรก็ตาม เพื่อสนับสนุนภาคอสังหา รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณาใน 2 เรื่อง ได้แก่
“คาดว่าทั้ง 2 มาตรการดังกล่าว จะดำเนินการให้แล้วเสร็จ และออกมาได้ภายใน 1 เดือน“
นอกจากนี้ ได้หารือสมาคมธนาคารไทย ส่วนหนึ่งคือเรื่องอสังหา โดยมีการหารือถึงสภาพธุรกิจกลุ่มดังกล่าวว่าเป็นเช่นไร และมีการหารือถึงขนาดการปล่อยสินเชื่อใหม่ด้วย