หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 21 กันยายน 2565
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกร้อยละ 0.75 สู่ระดับ 3.00-3.25% เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจทำให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น และอาจกระทบต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำมันและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ เผยเลขระยะการเดินทางของยานพาหนะในสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. 65 ปรับตัวลดลง 9.9 พันล้านไมล์ หรือร้อยละ 3.3 สู่ระดับ 286.6 พันล้านไมล์ ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สองในการขับขี่ของชาวอเมริกัน หลังเผชิญกับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง
+ ตลาดยังคงกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรหรือโอเปกพลัสเผยเลขปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มต่ำกว่าเป้าหมายการผลิตที่วางไว้ในเดือนสิงหาคม 3.58 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.5 ของความต้องการใช้น้ำมันดิบโลก โดยตลาดคาดการณ์ว่าทางกลุ่มอาจไม่สามารถปรับเพิ่มปริมาณการผลิตได้ตามเป้าที่วางไว้ในครั้งถัดไป เนื่องจากข้อจำกัดหลักด้านกำลังการผลิตสำรอง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังซาอุดิอาระเบียเผยปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับตัวลดลงร้อยละ 2.8 และการส่งออกน้ำมันเบนซินปรับลดลงกว่าร้อยละ 20.7 ขณะที่โควตาการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันของจีนสำหรับไตรมาสที่สี่อาจอยู่ในช่วง 10 ถึง 15 ล้านตัน ส่งผลให้อุปทานมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการส่งออกน้ำมันดีเซลซาอุดิอาระเบียปรับตัวลดลง จากอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์จีนมีแนวโน้มออกโควต้าการส่งออกครั้งใหม่ ส่งผลให้อุปทานมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์