เปิด 4 แนวทาง “ลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาท” ส.อ.ท. ลั่นต้องตัดกำไรแฝง
ส.อ.ท. เสนอ 4 แนวทางลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาท จากเดิมที่ กกพ. มีมติให้ตรึงค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. 68 ที่ 4.15 บาท ลั่นต้องตัดกำไรแฝงทั้งระบบ
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงแนวทางการลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ภายในปี 68 ว่า การจะทำให้ค่าไฟจากเดิมที่ราคา 4.15 บาท/หน่วย ลดลงเหลือ 3.70 บาท/หน่วย หรือหายไป 0.45 บาทต่อหน่วย ไม่ใช่เรื่องยาก
ทั้งนี้ จะต้องร่วมด้วย ช่วยกัน ปรับลดค่าไฟฟ้า ด้วยแนวทางที่ประกอบด้วย
- Refinance หนี้ EGAT โดยออกพันธบัตรรัฐบาล จะทำให้ลดลงไป 0.10 บาทต่อหน่วย
- ลดไขมันจากการที่มีกำไร (Margin) แฝงทั้งระบบ ไม่ผลักภาระให้ผู้บริโภค
- ตั้งแต่การจัดหาก๊าซธรรมชาติ (NG) การไฟฟ้าทั้ง 3 โรงไฟฟ้าเอกชน เช่น ค่า AP (Availability Payment) รวมลดลงไป 0.15 - 0.20 บาทต่อหน่วย
เปิด 4 แนวทาง “ลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาท” ส.อ.ท. ลั่นต้องตัดกำไรแฝง
- เพิ่มเชื้อเพลิงถูก เช่น เปิดเสรีโซลาร์ (Solar) ,ปรับราคาค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ในโรงไฟฟ้าที่คืนทุนแล้ว
- ลดนำเข้า LNG (Liquefied Natural Gas) ที่แพง รวมสถานการณ์ราคาพลังงานโลกที่ LNG ต่ำลง ลดลงไป 0.10-0.15 บาทต่อหน่วย
- ปรับประสิทธิภาพการบริหาร เช่น ประมูลการซื้อไฟฟ้า และจัดหา LNG แบบเสรี แทน กำหนดราคาเป้าหมาย ลดการสูญเสีย จากผู้ลักลอบใช้ไฟฟ้าฟรี ส่งเสริมมาตรการประหยัดพลังงาน (Energy Efficiency) ลดลงไป 0.10 บาทต่อหน่วย
ล่าสุดในการประชุมครั้งที่ 12/2568 (ครั้งที่ 954) วันที่ 26 มีนาคม 2568 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีสำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2568 คงเดิมที่ 36.72 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งสอดคล้องกับอัตราที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอมา
เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วยแล้ว ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น 4.15 บาทต่อหน่วย เท่ากับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน