วันนี้ 26 กันยายน 2565 จากกรณีที่กระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 5 www.คนละครึ่ง.com ข่าวคนละครึ่งเฟส 5 ล่าสุด วันนี้ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 5 ได้เปิดลงทะเบียนรอบเพิ่มเติมตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา จำนวน 3.09 ล้านสิทธิ ให้แก่ประชาชนที่ยังไม่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 รวมถึงประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 แต่ไม่ได้เริ่มใช้จ่ายภายในกำหนดเวลา 14 วัน โดยข้อมูลสะสม ณ วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 เวลา 23.00 น.
มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
- รอบเพิ่มเติมสำเร็จแล้วทั้งสิ้น 591,951 ราย
- และยังคงมีสิทธิคงเหลืออีกประมาณ 2.5 ล้านสิทธิ
- สำหรับการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 รอบเพิ่มเติม
- จึงขอเชิญชวนประชาชนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
- ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565
- ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังหรือ www.คนละครึ่ง .com ระหว่างเวลา 06.00 น. – 22.00 น.
โฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 จะได้รับวงเงินสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตราร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เหมือนประชาชนที่ได้รับสิทธิทุกรายก่อนหน้านี้
- โดยจะสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565 จนถึงวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 ระหว่างเวลา 06.00 น. – 22.59 น.
- ทั้งนี้ จะต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2565 เวลา 22.59 น. (ภายใน 14 วัน นับจากวันแรกที่เปิดให้เริ่มใช้จ่าย)
- มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ยังคงสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่องจนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัคร โดยผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ประสงค์จะขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม ยังสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ได้หนึ่งรายผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน
สำหรับความคืบหน้าการใช้สิทธิมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 โฆษกกระทรวงการคลังเผยว่า จากข้อมูลสะสม ณ วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 เวลา 23.00 น. มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 37.11 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสมทั้งสิ้น 31,025.15 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้
- โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 12.75 ล้านคน และมียอดใช้จ่าย 2,545.91 ล้านบาท
- โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 958,274 คน และมียอดใช้จ่ายสะสม 191.09 ล้านบาท
- โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (ประชาชนรายเดิมฯ) จำนวน 23.24 ล้านคน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 28,099.67 ล้านบาท
- และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายใหม่ที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (ประชาชนรายใหม่ฯ) จำนวน 158,417 คน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 188.48 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 23.40 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 28,288.15 ล้านบาท
- โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 14,367.51 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 13,920.64 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับยอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 11,602.02 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 5,809.48 ล้านบาท ร้าน OTOP 1,349.36 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 9,045.35 ล้านบาท ร้านบริการ 449.55 ล้านบาท และกิจการขนส่ง 32.39 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมแล้วจำนวน 9.59 แสนราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.17 หมื่นราย
ทั้งนี้ การใช้จ่ายผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดใช้จ่ายสะสมของร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มียอดใช้จ่ายสะสม 960.56 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 496.50 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 464.06 ล้านบาท โดยใช้จ่ายกับผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม จำนวน 7.99 หมื่นราย.