ย้อนไป คณะรัฐมนตรีในคราวการประชุมเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 ได้มีมติให้ความเห็นชอบลดขนาดของกองเรือประมง เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเลไทยเหมาะสมกับปริมาณสัตว์น้ำ เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนเป็นไปตามนโยบายแห่งชาติด้านการจัดการประมงทะเล พ.ศ. 2558 – 2562 (Marine Fisheries Management Plan of Thailand: A National Policy for Marine Fisheries Management 2015 – 2019) ทั้งนี้ จากข้อมูลการออกใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พบว่า จำนวนเรือประมงที่ได้รับใบอนุญาตฯ มีมากกว่าปริมาณสัตว์น้ำที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน (Maximum Sustainable Yield: MSY) สังเกตได้จากการจัดสรรทรัพยากรสัตว์น้ำให้กับเรือประมง
กรมประมง ต้องใช้มาตรการควบคุมจำนวนวันทำการประมง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการทรัพยากรประมง โดยไม่ให้เกินค่า MSY ซึ่งตามหลักการแล้วเรือประมงควรจะทำการประมงได้ตลอดทั้งปี โดยไม่เกิดผลกระทบต่อความยั่งยืนของสัตว์น้ำ นอกจากนี้ยังมีเรือประมงพาณิชย์ส่วนหนึ่งที่จดทะเบียนเรือแล้วแต่ไม่ได้ขอรับใบอนุญาตทำการประมง ดังนั้นการนำเรือประมงออกนอกระบบบางส่วนจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งการดำเนินการนำเรือประมงออกนอกระบบแบ่งกลุ่มเรือออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1.กลุ่มเรือที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐไม่สามารถออกทำการประมงและให้ความร่วมมือกับภาครัฐ โดยไม่ขอใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ (นรบ. 01) จำนวน 570 ลำ และ 2. กลุ่มเรือที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ซึ่งประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมงและเรือประมงที่แจ้งความประสงค์ออกนอกระบบเพิ่มเติม (นรบ. 02) จำนวน 2,505 ลำ โดยกรมประมงได้นำกลุ่มเรือ นรบ. 01 มาจัดทำโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงที่ยั่งยืน จำนวน 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จำนวน 305 ลำ วงเงิน 764,454,100 บาทและระยะที่ 2 จำนวน 59 ลำ วงเงิน 287,181,800 บาท รวมทั้งสิ้น 364 ลำ วงเงิน 1,051,635,900 บาท
สำหรับกลุ่มเรือ นรบ. 02 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จัดทำโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นกรณีเร่งด่วน จำนวน 96 ลำวงเงินงบประมาณ 163,363,400 บาท อย่างไรก็ตามจากการประเมินปริมาณสัตว์น้ำที่อนุญาตให้ทำการประมงในปี 2567 และจำนวนเรือประมงพาณิชย์ที่มีอยู่ทั้งหมด 9,898 ลำ มีเรือที่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ 8,893 ลำ และเรือที่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ 915 ลำ ซึ่งสามารถขอรับใบอนุญาตทำการประมงได้ในอนาคต
พบว่าหากจะบริหารจัดการกองเรือประมงพาณิชย์ ที่มีอยู่ในระบบให้สามารถทำการประมงได้ตลอดทั้งปี มีความจำเป็นต้องนำเรือออกนอกระบบทั้งหมดร้อยละ 17 ของจำนวนเรือประมงพาณิชย์ทั้งหมด และการนำเรือประมงออกนอกระบบจำนวน 923 ลำ จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการทำการประมงของเรือที่อยู่ในระบบ โดยการนำปริมาณสัตว์น้ำที่จัดสรรให้เรือที่ออกนอกระบบจำนวน 82,802 ตัน (มูลค่ารวม 4,321.44 ล้านบาท) ไปจัดสรรเพิ่มเติมให้กับเรือลำอื่นที่อยู่ในระบบ
ดังนั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการบริหารกองเรือให้มีความสมดุลกับทรัพยากรประมงทะเล และเกิดความยั่งยืนในการใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำ จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนเรือประมงให้เหมาะสมกับปริมาณทรัพยากร ซึ่งส่งผลให้ทรัพยากรประมงทะเล ฟื้นคืนสู่ระดับที่สามารถให้ผลผลิตสูงสุดที่ยั่งยืน เพิ่มความคล่องตัวในการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ลดปัญหาความขัดแย้งในการทำการประมง เปิดโอกาสให้ชาวประมงสามารถนำเรือประมงไปใช้ในกิจการอื่นนอกภาคประมงได้ส่งเสริมให้ชาวประมงได้มีโอกาสประกอบอาชีพอื่น เพื่อเลี้ยงครอบครัว และบรรเทาภาวะหนี้สินที่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเรือ ซึ่งเรือที่นำออกนอกระบบจะไม่สามารถนำกลับเข้าสู่ระบบการทำประมงได้อย่างถาวร
ทั้งนี้คุณสมบัติของเรือประมงที่ได้รับการจ่ายเงินเยียวยา
1.เป็นเรือประมงที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ซึ่งประสงค์จะเลิกอาชีพทำการประมงและเรือประมงที่แจ้งความประสงค์ออกนอกระบบเพิ่มเติม (นรบ. 02) ทั้งนี้ ต้องเป็นเรือและเจ้าของเรือที่ไม่เคยกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการประมง กฎหมายเจ้าท่า และกฎหมายแรงงานมาก่อน
2. เป็นเรือประมงตามบัญชีรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาจากคณะทำงานตรวจสอบประวัติ ความถูกต้อง และคุณสมบัติ เรือประมงและเจ้าของเรือ
3. เป็นเรือประมงตามบัญชีรายชื่อที่ผ่านการประเมินราคาตามสภาพความเป็นจริงรายลำจากคณะทำงานประเมินราคาเรือประมง
4. เป็นเรือประมงที่อยู่ในบัญชีรายชื่อพร้อมราคาที่ผ่านการประเมิน ซึ่งได้ผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ
ในกรณีที่มีการตรวจพบในภายหลังว่าผู้ที่จะได้รับการเยียวยามีคุณสมบัติต่าง ๆ ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ข้อ 1 - 4 ให้ถือว่าบุคคลนั้นไม่มีสิทธิได้รับเยียวยาของเรือลำนั้น ๆ
หลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยา
1.คณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมง จะจ่ายเงินเยียวยาให้แก่เจ้าของเรือประมงแต่ละลำ พร้อมราคาประเมินที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ
2. เกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาให้แก่เจ้าของเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ แบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้
กรณีการแยกชิ้นส่วนให้สิ้นสภาพ ให้ได้รับเงินเยียวยาร้อยละ 100 ของราคาประเมิน แบ่งออกเป็น 2 งวด
• งวดที่ 1 จ่ายร้อยละ 50 เมื่อทำสัญญาระหว่างกรมประมงกับเจ้าของเรือ และได้รับอนุมัติแผนการแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมง จากกรมเจ้าท่า
• งวดที่ 2 จ่ายร้อยละ 50 เมื่อแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือเสร็จสิ้น
ส่วนในกรณีการนำไปใช้ประโยชน์อื่น เช่น ร้านกาแฟ ห้องสมุด เป็นต้น ให้ได้รับเงินเยียวยา ร้อยละ 90 ของราคาประเมิน
• งวดที่ 1 จ่ายร้อยละ 50 เมื่อทำสัญญาระหว่างกรมประมงกับเจ้าของเรือและได้รับอนุมัติแผนการแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมงจากกรมเจ้าท่า
• งวดที่ 2 จ่ายร้อยละ 50 เมื่อมีการเปลี่ยนสภาพเรือไปใช้ประโยชน์อื่นเรียบร้อยแล้ว
กรณีเปลี่ยนประเภทเรือ เช่น เรือลากจูง เรือโดยสาร เรือบรรทุกสินค้า เป็นต้น ให้ได้รับเงินเยียวยาร้อยละ 90 ของราคาประเมิน
• งวดที่ 1 จ่ายร้อยละ 50 เมื่อทำสัญญาระหว่างกรมประมงกับเจ้าของเรือ
• งวดที่ 2 จ่ายร้อยละ 50 เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาพเรือเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 1 ของจำนวนเงินที่ได้รับขั้นตอนและวิธีการจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ
1. การแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือประมงในพื้นที่คณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือประมงในพื้นที่ประจำทั้ง 20 จังหวัดชายทะเล และกรุงเทพมหานคร เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องตามบัญชีรายชื่อเรือและเจ้าของเรือประมงก่อนจัดส่งให้สำนักงานประมงจังหวัด/ประมงพื้นที่กรุงเทพฯ ประกาศและแจ้งเจ้าของเรือประมงให้มายื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา
การยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมง
1. ใบรับคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ
2. แบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของเรือประมง
4. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
5. สำเนาบัตรประจำตัวของกรรมการผู้จัดการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการ (กรณีนิติบุคคล)
6. สำเนาใบทะเบียนเรือไทย
7. สำเนาใบอนุญาตใช้เรือ
8. สำเนาส่วนหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร
9. แบบแจ้งข้อมูลการรับเงินโอนผ่านระบบ KTB Corporate Online
10. หนังสือมอบอำนาจ
11. คำสั่งศาลมอบหมายให้เป็นผู้จัดการมรดก (กรณีเจ้าของเรือประมงเสียชีวิต)
12. แบบสัญญาเงินเยียวยากรณีเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ
13. บัญชีสรุปแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมงที่ประสงค์จะนำออกนอกระบบ
14. แบบรายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องของคุณสมบัติของเรือประมงรายลำและการจัดทำสัญญาเงินเยียวยาเรือประมงเพื่อขอรับเงินเยียวยา งวดที่ 1
15. หนังสืออนุมัติแผนจากกรมเจ้าท่า
- หนังสืออนุมัติแผนการแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือจากกรมเจ้าท่า
- หนังสืออนุมัติแผนการเคลื่อนย้ายเรือประมงเพื่อนำไปใช้ประโยชน์อื่นจากกรมเจ้าท่า
-หนังสืออนุมัติการเปลี่ยนประเภทเรือจากกรมเจ้าท่า
เอกสารประกอบการยื่นขอรับเงินเยียวยาเรือประมงที่ประสงค์ออกนอกระบบ งวดที่ 2
การดำเนินการนำเรือประมงออกนอกระบบ
1. หนังสือมอบอำนาจ
2. กรณีประสงค์แยกชิ้นส่วนให้สิ้นสภาพ
2.1 ใบรับแบบแจ้งผล ก่อน ระหว่าง หลัง การแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมง
2.2 แบบแจ้งผล ก่อน ระหว่าง หลัง การแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมง
2.3 แบบรายงานการตรวจสอบเรือประมง ก่อน ระหว่าง หลังแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือ
3. กรณีประสงค์นำไปใช้ประโยชน์อื่น
3.1 ใบรับแบบแจ้งผล ก่อน ระหว่าง หลัง การนำเรือประมงไปใช้ประโยชน์อื่น
3.2 แบบแจ้งผล ก่อน ระหว่าง หลัง การนำเรือประมงไปใช้ประโยชน์อื่น
3.3 แบบรายงานการตรวจสอบเรือประมง ก่อน ระหว่าง หลังการนำไปใช้ประโยชน์อื่น
4. กรณีประสงค์เปลี่ยนประเภทเรือ
4.1 ใบรับแบบแจ้งผล ก่อน ระหว่าง หลัง การเปลี่ยนประเภทเรือ
4.2 แบบแจ้งผล ก่อน ระหว่าง หลัง การเปลี่ยนประเภทเรือ
4.3 แบบรายงานการตรวจสอบเรือประมง ก่อน ระหว่าง หลังการเปลี่ยนประเภทเรือ
5. แบบรายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องของการแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมง/การนำใช้ประโยชน์อื่น/การเปลี่ยนประเภทเรือรายลำ เพื่อขอรับเงินเยียวยา งวดที่ 2
6. ใบเสร็จรับเงิน งวดที่ 1
ขั้นตอนและวิธีการจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ
1. การแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือประมงในพื้นที่
คณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือประมงในพื้นที่ประจำทั้ง 20 จังหวัดชายทะเล และกรุงเทพมหานคร เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องตามบัญชีรายชื่อเรือและเจ้าของเรือประมงก่อนจัดส่งให้สำนักงานประมงจังหวัด/ประมงพื้นที่กรุงเทพฯ ประกาศและแจ้งเจ้าของเรือประมงให้มายื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา
2. การประกาศรายชื่อเรือประมงและเจ้าของเรือ
กรมประมงจัดทำประกาศกรมประมง เรื่อง รายชื่อเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ ส่งให้สำนักงานประมงจังหวัดดำเนินการ แจ้งเจ้าของเรือประมงตามบัญชีรายชื่อ ให้เจ้าของเรือประมงยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา ณ สำนักงานประมงจังหวัดภายใน 30 วัน หลังจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้ง หากไม่มาดำเนินการภายในกำหนด ถือว่าไม่ประสงค์ที่จะขอรับเงินเยียวยา
3. การยื่นแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยา
3.1 กรณีเจ้าของเรือฯ เป็นบุคคลธรรมดา
3.1.1 บันทึกข้อมูลตามแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ พร้อมลงนามในแบบคำร้องฯ ด้วยตนเอง หากไม่สามารถมายื่นด้วยตนเอง ให้จัดทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายื่นแทนได้
3.1.2 ยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมงฯ ณ สำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ พร้อมแนบ
เอกสารและหลักฐานให้เป็นไปตามแบบสัญญา
3.2 กรณีเจ้าของเรือฯ เป็นนิติบุคคล
3.2.1 ผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบบันทึกข้อมูลตามแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ พร้อมลงนามในแบบคำร้องฯด้วยตนเอง หากไม่สามารถยื่นด้วยตนเองได้ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายื่นแทนได้ และให้ผู้รับมอบ
อำนาจเป็นผู้ลงนามในแบบคำร้องฯ
3.2.2 ยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมงฯ ณ สำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ พร้อมแนบเอกสารและหลักฐานให้เป็นไปตามแบบสัญญา
4. การรับแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ
4.1 ให้ประมงจังหวัดมอบหมายเจ้าหน้าที่ของสำนักงานในการรับแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ
4.2 เจ้าหน้าที่ผู้รับแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ ดำเนินการตรวจสอบเอกสารและหลักฐานประกอบ หากเอกสารครบถ้วนให้ออกใบรับคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ
กรณีเอกสารและหลักฐานประกอบคำร้องขอรับเงินเยียวยาเรือประมงไม่ครบถ้วน ให้แจ้งผู้ยื่นแบบคำร้องฯ ทันที โดยให้ผู้ยื่นแบบคำร้องฯ ดำเนินการแก้ไขให้ครบถ้วน ภายใน 7 วันทำการ
4.3 จัดทำบัญชีสรุปแบบคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ และรวบรวมเสนอคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือประมงในพื้นที่พิจารณา
5. การตรวจสอบข้อมูลและจัดทำสัญญา
5.1 คณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือประมงในพื้นที่ ตรวจสอบเรือประมงที่ยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยา พิจารณาให้ความเห็นชอบการตรวจสอบความถูกต้องของเรือประมงเป็นรายลำ และจัดส่งข้อมูลให้สำนักงานประมงจังหวัดดำเนินการแจ้งเจ้าของเรือมาจัดทำสัญญาเงินเยียวยากรณีเรือประมงที่ประสงค์นำออกนอกระบบ
5.2 สำนักงานประมงจังหวัด รายงานผลการจัดทำสัญญาฯ เสนอคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือประมงในพื้นที่ และจัดทำแบบรายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องของคุณสมบัติของเรือประมงรายลำและการจัดทำสัญญาเงินเยียวยาเรือประมงเพื่อขอรับเงินเยียวยา งวดที่ 1 โดยคณะเจ้าหน้าที่ลงนามให้ครบถ้วน
5.3 สำนักงานประมงจังหวัดจัดส่งแบบรายงานผลฯ พร้อมต้นฉบับแบบคำร้องฯ และสัญญาฯ ให้คณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมง พร้อมแผนที่ได้รับอนุมัติจากกรมเจ้าท่า
การจ่ายเงินเยียวยางวดที่ 1
เมื่อคณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว เสนอกรมประมงเบิกจ่ายเงินเยียวยา งวดที่ 1 โดยหักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 1 ของจำนวนเงินที่ได้รับ
การจ่ายเงินเยียวยา งวดที่ 2
เมื่อคณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงให้ความเห็นชอบการดำเนินการ เสนอกรมประมงจ่ายเงินเยียวยางวดที่ 2 ต่อไป โดยหักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 1 ของจำนวนเงินที่ได้รับ
การรายงานผลการดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา
คณะทำงานจ่ายเงินเยียวยาเรือประมงรายงานผลการดำเนินการต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการนำเรือออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนทราบ