thansettakij
ล่ารายชื่อชาวนา 5 หมื่นคน ตั้งไข่กฎหมายข้าว ลุยแก้ราคาข้าวตก

ล่ารายชื่อชาวนา 5 หมื่นคน ตั้งไข่กฎหมายข้าว ลุยแก้ราคาข้าวตก

18 มี.ค. 2568 | 10:53 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2568 | 10:54 น.

“กิตติศักดิ์” เตรียมรวบรวมสมาคม-องค์กรชาวนา ล่ารายชื่อ 5 หมื่นคน ตั้งไข่กฎหมายข้าวและชาวนา ถอดบทเรียนแก้ราคาข้าวตกต่ำ-เงินบำนาญ เลียนโมเดลประกันสังคม

“ข้าว” ถือว่าเป็นพืชที่สำคัญของประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง แต่ในปัจจุบันปรากฏว่าการปลูกการผลิต การจำหน่าย และการแบ่งปันผลประโยชน์ข้าวทั้งกระบวนการกำลังประสบปัญหาอันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนทั้งจากปัญหาปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้น ปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรตกต่ำ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต มีหนี้สินเป็นจำนวนมาก และขาดแรงจูงใจใจในการเข้าสู่อาชีพเกษตรกร

 

                                                       ล่ารายชื่อชาวนา 5 หมื่นคน ตั้งไข่กฎหมายข้าว ลุยแก้ราคาข้าวตก                                                                                             

ดังนั้น เพื่อให้กระบวนการผลิต การจำหน่ายและการแบ่งปันผลประโยชน์เกี่ยวกับข้าวเกิดความเป็นธรรมทั้งต่อตัวเกษตรกร โรงสีข้าว และผู้บริโภคและบรรเทาปัญหาความเดือนร้อนอย่างยังยืน สมควรสนับสนุนให้มีการจัดระบบริหารด้านการผลิต การจำหน่าย และการแบ่งปันผลประโยชน์ข้าวอย่างเป็นระบบ ตลอดจนห่วงโซ่ จึงเป็นที่มาและความจำเป็นที่จะต้องมีร่างพระราชบัญญัติข้าวและชาวนา พ.ศ. ....หรือ "กฎหมายข้าว" ขึ้น

 

 

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ในเร็วๆ นี้กฎหมายข้าวที่ได้ร่างเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังปฏิรูปใหม่ โดยให้ชาวนาเป็นผู้เสนอ ลงรายชื่อ 5 หมื่นคน เสนอให้รัฐบาล เร่งกฎหมายนี้ออกมา ให้โดยเร็วที่สุด ก็เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลเองก็ได้หลุดปากออกมาชาวนาเป็นภาระ เพราะฉะนั้นการมีกฎหมายข้าว ยกตัวอย่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายฯ ที่ได้มีการแก้ไขมาในช่วงที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อเห็นว่ากฎหมายมีความสมบูรณ์ทำให้ทั้งชาวไร่อ้อยและโรงงานมีแบ่งปันผลประโยชน์ รวมทั้งกฎกติกาด้วย

ล่ารายชื่อชาวนา 5 หมื่นคน ตั้งไข่กฎหมายข้าว ลุยแก้ราคาข้าวตก

สำหรับ พ.ร.บ.ข้าวและชาวนาฯ โดยร่างฯ นี้จะออกมาจากชาวนา เจตนารมณ์การทำนา ชาวนาจะต้องขายข้าวไม่ขาดทุน เพราะว่า จะมีโครงสร้างปรับปรุงตั้งแต่กระบวนการผลิต การทำนา จะรวมไปถึงปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ สารเคมีเกษตร โดยจะต้องมีกฎหมายเข้ามาควบคุม เนื่องจากปัญหาทุกวันนี้ของชาวนา ถ้าหากเรียกร้องราคาข้าวขึ้น แต่เราไม่ได้มองไปที่ต้นทุน โดยให้ขึ้นไปตันละ 5 หมื่นบาท แต่เราไม่ควบคุมต้นทุนไว้ ตั้งแต่ราคาปุ๋ย สารเคมี หากราคาข้าวปรับขึ้นไปก็ไม่มีผล ราคาขยับตามไปด้วย เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำให้ยั่งยืนจะต้องมีกฎหมายที่มาช่วยพัฒนาและสิทธิของชาวนาจะดีที่สุด

 

นายกิตติศักดิ์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ต้องการผลักดันกฎหมายนี้ให้เกิดขึ้น ก็จะมีการบูรณาการหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับข้าว ชาวนา โรงสี ผู้ประกอบการค้าข้าว และผู้ส่งออก มาไว้ฉบับนี้ พ่วงกับชาวนาจะต้องมีการลดต้นทุน และมีโครงสร้างองค์กรชัดเจน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็สามารถบริหารต่อเนื่องได้

ล่ารายชื่อชาวนา 5 หมื่นคน ตั้งไข่กฎหมายข้าว ลุยแก้ราคาข้าวตก

“ยกตัวอย่าง การขายข้าวเปลือกต่อไปของชาวนาจะต้องมีใบเสร็จรับเงิน ว่าขายให้กับใคร ความชื้นเท่าไร เป็นข้าวพันธุ์อะไร แล้วถ้าขายไปแล้วได้ราคาต่ำกว่าต้นทุนที่คณะกรรมการในกฎหมายข้าวระบุไว้ จะมีกองทุนช่วยอุดหนุนราคาข้าว เพื่อชดเชยราคาที่ชาวนาขายไปนำมาจ่ายให้กับชาวนารายนั้นๆ ต่อไป และที่สำคัญก็จะมีบำเหน็จหรือ บำนาญของชาวนา เหมือนประกันสังคม  หลังทำนาไม่ไหวแล้วเพื่อดำรงชีพได้ในอนาคต และ ในฐานะที่เป็นอาชีพมีความสำคัญของประเทศ ที่กล่าวว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ซึ่งเป็นกฎหมายของชาวนาอย่างแท้จริง”