4 สมาคมปุ๋ยเคมี แข่งเดือดลดราคา สนองนโยบายรัฐบาล รับฤดูการผลิตใหม่

ผู้ประกอบการไทยเริ่มนำเข้าปุ๋ยเคมีมาใช้เมื่อ 70 กว่าปีที่ผ่านมา แม้ปุ๋ยเคมีมีราคาสูงกว่าปุ๋ยอินทรีย์และหากใช้เป็นระยะเวลานานจะทำให้โครงสร้างดินจับตัวแน่นจนเนื้อดินเสียหาย เนื่องจากปุ๋ยเคมีใช้งานสะดวกและ  ให้ธาตุอาหารแก่พืชที่มากกว่าปุ๋ยอินทรีย์ ทำให้ปุ๋ยเคมีเป็นที่นิยมของเกษตรกร จนปุ๋ยเคมีกลายเป็นปุ๋ยที่มีการใช้เป็นจำนวนมาก นับว่าปุ๋ยเคมีและอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีมีบทบาทและความสำคัญต่อภาคการเกษตรและเศรษฐกิจไทย

“ปุ๋ยเคมี” ที่เกษตรกรใช้กันมากมีสองกลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแรก คือ แม่ปุ๋ย ได้แก่ ปุ๋ยไนโตรเจน ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต และปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ กลุ่มที่สอง คือ ปุ๋ยผสมหรือปุ๋ยสูตรต่าง ๆ ที่นำแม่ปุ๋ยมาผสมกัน ได้แก่ ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 และปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ปุ๋ยเคมีเหล่านี้สามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด ทั้งนาข้าว พืชไร่ ไม้ผล รวมทั้งพืชผักชนิดต่างๆ โดยปุ๋ยเคมีเกือบทั้งหมดนำเข้าจากต่างประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แคนาดา เบลารุส นอร์เวย์ มาเลเซีย มีปุ๋ยเคมีเพียงเล็กน้อยที่ผลิตเองภายในประเทศ ซึ่งปุ๋ยเคมีที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นประจำรัฐบาลทุกรัฐบาลได้มีแนวความคิดที่จะลดต้นทุนให้กับเกษตรกร โดยผ่าน 4 สมาคมปุ๋ยฯ  ปัจจุบันมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เลือกสูตรปุ๋ยอะไรบ้างในปีนี้เพื่อเกษตรกรไทย

เริ่มจาก นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทางสมาคม ฯ โดยบริษัทต่างๆ ส่วนใหญ่พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ในการลดต้นทุนให้เกษตรกร ประมาณ14-15 สูตรปุ๋ยเคมี ในราคาพิเศษ ต่ำกว่าราคาตลาด อย่างไรก็ดีเกษตรกรในช่วงนี้อย่าเพิ่งซื้อปุ๋ย โดยโครงการนี้คาดว่าจะเริ่มประมาณวันที่ 15 เมษายน 2568 นี้หรือไม่ต้องรอยืนยันจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์อีกครั้งหนึ่ง ก็ต้องยอม

 

“การใช้ปุ๋ยเคมี ช่วยเพิ่มผลผลิตและใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่ต้องใช้ให้เป็นใช้ให้ถูกต้อง ถูกสูตร ถูกเวลา ตรงกับพืช รวมทั้งคุณสมบัติดิน รวมทั้งให้ระวังโรคพืชด้วย โดยเฉพาะอากาศเปลี่ยนแปลงร้อน สลับหนาว มีผลทำให้พืชเสียหายได้ ดังนั้นต้องยอมรับอาชีพเกษตรในภาวะนี้เป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงคนไทยต้องเห็นใจเกษตรกร ที่ลงทุนสร้างผลผลิตให้ประเทศสร้างรายได้ ต้องยกย่องให้มีเกียรติ อย่าไปมองว่าเป็นปัญหา โดยเฉพาะเรื่องราคาข้าว ตกต่ำจริง แล้วสวนทางกับค่าครองชีพในปัจจุบัน ก็น่าเห็นใจมากกว่า  เมื่อเปรียบเทียบหลายประเทศ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่โชคดี เมื่อเทียบสหรัฐอเมริกา ก็ย่ำแย่ไม่มีไข่ไก่ประเทศเพียงพอ”

เช่นเดียวกับนางสาววรัญญา  บุญวิวัฒน์ นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย  กล่าวว่า ทางสมาคมพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการลดราคาปุ๋ยเคมี สูตรต่างๆครอบคลุมการเพาะปลูกพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นนาข้าว พืชไร่ พืช สวน ไม้ผล และไม้ดอกไม้ประดับ อาทิ 

1.ปุ๋ยสูตร 16-20-0

 2. ปุ๋ยสูตร 15-15-15

3.ปุ๋ยสูตร 16-12-8

4.ปุ๋ยสูตร 16-16-8

5. ปุ๋ยสูตร 16-8-8

6. ปุ๋ยสูตร 20-8-20

7. ปุ๋ยสูตร 16-20-0

8.ปุ๋ยสูตร 15-15-15

9.ปุ๋ยสูตร 20-8-20

 

 

อย่างไรก็ดี สมาคมมีความเป็นห่วงเกษตรกรที่ซื้อปุ๋ยเคมีจากรถเร่ ที่กำลังระบาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ซึ่งที่มาของสถานการณ์ดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดจากบริษัทที่เป็นผู้ผลิตปุ๋ยเคมีสั่งกระสอบจากผู้ผลิตถุงปุ๋ย ซึ่งในกรณีที่ปั๊มหรือพิมพ์ ไม่ผ่านคุณภาพมาตรฐาน หรือตัวอักษรเลื่อน ก็จะตีกลับไปยังโรงงานผู้ผลิตกระสอบหรือถุงปุ๋ย ซึ่งเปิดช่องให้โรงงานผลิตถุง/กระสอบปุ๋ยบางราย

นำบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ผ่านคิวซี ไปขายให้กับร้านค้าปุ๋ย และร้านค้าปุ๋ยบางรายก็จะขายบรรจุภัณฑ์เหล่านี้อีกต่อหนึ่งไปให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่ไปซื้อแม่ปุ๋ยจากร้านค้าแล้วแอบผสมใส่กระสอบปุ๋ยในแบรนด์ต่างๆ ที่ถูกตีกลับจากบริษัทผู้ผลิตปุ๋ยเคมี แล้วนำปุ๋ยไปขายตรงให้กับเกษตรกร  ปุ๋ยเหล่านี้เมื่อเกษตรกรนำไปใช้แล้วจะไม่ได้ผลในการเพิ่มผลผลิต ซึ่งหากส่งไปให้สารวัตรเกษตรของกรมวิชาการเกษตรตรวจสอบ ก็จะเข้าข่ายปุ๋ยปลอม ทำให้บริษัทที่เป็นเจ้าของแบรนด์เสียชื่อเสียงไปด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบและจับกุมเพียงแค่รายเดียว มีกระทำการมากกว่า 20 แบรนด์/ยี่ห้อ ซึ่งมีทั้งที่บรรจุใส่กระสอบแล้วและยังไม่ได้บรรจุ 

ดังนั้นอยากจะเตือนภัยเกษตรกร ให้ไปซื้อปัจจัยการผลิตจากร้านค้าที่มีใบอนุญาตหรือมีไว้เพื่อการขายปุ๋ยเคมี และการซื้อปุ๋ยทุกครั้งต้องขอใบเสร็จ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งไม่ควรนำกระสอบปุ๋ยหรือภาชนะบรรจุปุ๋ยที่ใช้แล้วมาขาย เพราะอาจมีผู้นำไปบรรจุปุ๋ยเคมีปลอมมาขายต่อ หากเป็นไปได้ควรมีการรวมกลุ่มกันสั่งซื้อปุ๋ยครั้งละจำนวนมากๆ และให้สังเกตว่า ปุ๋ยปลอมจะมีราคาถูก และมียี่ห้อใหม่ๆ เป็นต้น จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

นายพงษ์เทพ อันตะริกานนท์ นายกสมาคมธุรกิจปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพไทย  กล่าวว่า  ปีนี้ทางสมาคมพร้อมที่จะร่วมกับรัฐบาลในการลดราคาปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ให้กับเกษตรเพื่อเกษตรกรในการเพาะปลูก เพื่อช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้เกษตรกร โดยเฉพาะการลดต้นทุนปัจจัยการผลิต อย่างไรก็ดีอยากจะฝากเตือนเกษตรกรอยากอยู่แบบยั่งยืน และมีความสุข ไม่ต้องเดือดร้อนเป็นโรคมะเร็ง ที่ไทยสูงมากเป็นลำดับต้นของโลกแล้ว ดังนั้นอย่าใช้กันมาก เพราะเป็นสารพิษมีผลต่อมลพิษ สิ่งแวดล้อมแล้วท้ายสุดก็มาสู่คน

ปิดท้ายนายจารึก ศรีพุทธชาติ นายกสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร กล่าวว่า ทางสมาคมพร้อมให้ความร่วมมือกับทางราชการในการดำเนินงานลดราคาต้นทุนปุ๋ยเคมี ให้กับพี่น้องเกษตรกรในรายชนิดพืชที่ราคาตกต่ำ แต่ถ้าพืชไหนมีกำไร และราคาดี ก็ไม่ควรช่วยเหลือ