นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิคลี่คลาย หลายประเทศเริ่มมีการเดินทางไปมากันมากขึ้นร่วมถึงประเทศไทยที่ไม่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมานานถึง3ปีล่าสุดกรมเตรียมจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น 2565 (Bangkok RHVAC 2022) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2565 (Bangkok E&E 2022) โดยทั้งสองงานจะจัดขึ้นพร้อมกันภายใต้แนวคิด One Stop Solution พร้อมนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบรับความท้าทายใหม่ๆ ของโลก (New Innovations for New Global Challenges) ซึ่งจะเป็นการโชว์ศักยภาพของผู้ประกอบการไทยด้วยสินค้านวัตกรรมล้ำหน้าที่ตอบรับความท้าทายที่โลกต้องเผชิญ ทั้งโรคระบาด และปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยได้รวบรวมสินค้าและบริการไว้อย่างครบครัน
อาทิ แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง ไปจนถึงผู้ผลิตคอมเพรสเซอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบในระบบทำความเย็น ตลอดจนผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และอุปกรณ์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม รวมกว่า 100 บริษัท 400 คูหา บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ทั้งนี้ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกสำคัญในสินค้าเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น โดยส่งออกเครื่องปรับอากาศเป็นอันดับ 2 ของโลก มูลค่ากว่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งออกตู้เย็นกว่า 28,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ยังส่งออกผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นอันดับที่ 13 ของโลก คิดเป็นมูลค่าถึง 65,721 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“การจัดงานแสดงสินค้า Bangkok RHVAC 2022 และ Bangkok E&E 2022 ในปีนี้ เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกบอการไทยที่มีการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง สามารถสนองตอบความต้องการของตลาดและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก จนสินค้าของไทยเป็นที่ยอมรับจากผู้ซื้อทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 5,000 ราย และมีมูลค่าการสั่งซื้อภายในงานกว่า 1,500 ล้านบาท”
สำหรับมีไฮไลท์พิเศษในการจัดงานแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนนิทรรศการ One Stop Solutions โซนการจัดแสดง Product Showcase 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ และโซนนิทรรศการพิเศษ Stay Healthy, Stay Connectedโดยในนิทรรศการ One Stop Solutions จะนำเสนอในรูปแบบแนวคิด Smart Home ที่ตอบโจทย์บ้านยุคใหม่ด้วยพลังงานทางเลือก อาทิ การติดตั้ง Solar Rooftop การใช้ระบบ IoT ภายในบ้าน เครื่องทำความเย็นประหยัดพลังงานและกรองเชื้อโรค/ฝุ่น ตลอดจนการใช้อุปกรณ์ที่รองรับรถยนต์ไฟฟ้า ในโซนนี้จัดขึ้นภายใต้ 8 หัวข้อหลัก ได้แก่ Internet of Things, Energy Service Company, Climate, International Standard, Refrigerant Trend, Air Quality, Safety และ Technology โดยแต่ละวันจะมีการจัดงานเสวนาในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจร่วมด้วย
ด้านนางสุภาณี จันทศาศวัต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น เปิดเผยว่า ในงานมีการแบ่งโซนออกเป็น 5 กลุ่มสินค้า ที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของโลกในยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองวิถี New Normal ผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับระบบ IoT ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ เช่น เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เครื่องส่งลมเย็นหรือ Air Handling Unit (AHU) แผ่นทำความเย็นในรูปรังผึ้งแบบลดการเกาะของตะกรันแคลเซียม เครื่องปรับอากาศ Solar Hybrid สามารถนำพลังงานไฟฟ้าจากแผง Solar Cell มาใช้โดยตรง จึงไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ เครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เครื่องกรองอากาศประสิทธิภาพสูง ตลอดจนเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศและเครื่องเติมอากาศ
ขณะที่นายสุรเดช บุณยวัฒน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ในนามคลัสเตอร์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องปรับอากาศ จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี Smart Living Solutions และนวัตกรรม Medical Smart Electronics ฝีมือคนไทยมาจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการ
โดยมีสินค้านวัตกรรมที่น่าสนใจ เช่น ตู้เก็บวัคซีนพร้อมอุปกรณ์ Monitoring ตู้เย็นขนาดเล็กแบบพกพาพร้อม Monitoring ระบบปรับอากาศสำหรับห้องความดันลบและห้องทันตกรรม Telemedicine อุปกรณ์ตรวจสุขภาพทางไกล Smart Pole เสาไฟอัจฉริยะใช้ระบบ Solar และพลังงานลม เพื่อรองรับเมืองอัจฉริยะ เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา และยังจัดแสดงต้นแบบงานวิจัยที่เกี่ยวข้องด้านการแพทย์ อาทิ การพัฒนาระบบสังเคราะห์อนุภาคนาโนไขมันสำหรับนำส่งอาร์เอ็นเอเพื่อการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 นวัตกรรมการพัฒนาหน้ากากผ้าไหมปักธงชัย และเครื่องทดสอบประสิทธิภาพการกรองฝุ่นของหน้ากากอนามัย โครงการออกแบบและสร้างห้องความดันลบสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เครื่องผลิตออกซิเจนความบริสุทธิ์สูง และเครื่องเร่งอนุภาคเชิงเส้นเพื่อประยุกต์ใช้งานทางการแพทย์ ซึ่งนวัตกรรมต่างๆ เหล่านี้ล้วนตอบโจทย์โลกในยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสุขภาพและอนามัย