นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากที่ด่านการค้าด่านชายแดนด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลับมาเปิดอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังจากที่ปิดด่านชั่วคราวช่วงสถานการณ์โควิด-19 คาดว่าส่วนหนึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อด่านชายแดนด้านจังหวัดระนอง โดยเฉพาะการขนส่งทางบกที่นำสินค้าเข้าไปยังเมียนมา จากที่ผ่านมาพ่อค้าส่วนหนึ่ง หันมาใช้ด่านชายแดนด้านระนองขนส่งสินค้าเข้าเมียนมา เนื่องจากยังผ่อนปรนให้ขนส่งสินค้าเข้าออกได้
เมื่อด่านสิงขรเปิดก็จะมีส่วนหนึ่งที่หันไปใช้เส้นทางด่านสิงขรตามเดิม โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค-บริโภค ส่วนด้านชายแดนระนอง ยังเป็นช่องทางผ่านของน้ำมัน และสินค้าปูนซีเมนต์ และเครื่องมือที่ ใช้สนับสนุนในฐานขุดเจาะน้ำมัน ดังนั้น การค้าด้านระนองยอดการค้าอาจจะลดลงได้เล็กน้อย เนื่องจากสินค้าบางกลุ่มจะถูกย้ายเส้นทางการขนส่งไปยังด่านสิงขร ซึ่งมีระยะทางที่ไกล้ว่าด่านระนองแทน
จากข้อมูลสถิติที่ผ่านมาในปี 2563 มูลค่าการนำเข้าส่งออกบริเวณด่านสิงขร มีมูลค่า1,600 ล้านบาท ขณะที่ปี 2564 มีการระบาดเชื้อโควิด-19 ทางการให้ปิดด่าน ทำให้มูลค่าการส่งออกลดลงเหลือเพียง 340 ล้านบาท ส่วนปี 2565 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เฉลี่ยการส่งออกเดือนละ 100 ล้านบาท
นอกจากนี้หากผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่ม เปิดให้คนสัญจรผ่านเข้าออกที่ด่านสิงขรด้วย จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ เดินทางไปมาหากันมากขึ้น สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงไม่แพ้การส่งออกสินค้า
ก่อนหน้านี้นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความพร้อม ในการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก รอง ผบ.ฉก.จงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ นายสินาทร โอ่เอี่ยม ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ประมง สาธารณสุข ตชด.146 อบต.คลองวาฬ
การลงพื้นที่เพื่อเตรียมการรองรับ หากมีการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น หลังจากที่ผ่านมา ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา ได้มีคำสั่งระงับการเดินทางเข้าออกด่านสิงขรชั่วคราวทั้งบุคคลและยานพาหนะ เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่มีการผ่อนผันเฉพาะการขนถ่ายสินค้านำเข้าส่งออกเท่านั้น
จากการลงพื้นที่ได้มารับทราบรายงานการก่อสร้างอาคารด่านพรมแดนสิงขร พบว่า ได้มีการส่งมอบงานงวดสุดท้ายจากผู้รับจ้างแล้ว
ขณะที่การค้าชายแดนผ่านด่านชายแดนด้าน จ.ระนองที่ผ่านมาก็มีความคึกคักเพิ่มขึ้น เหตุจากสถานการณ์โลกตึงเครียด ที่อาจกระทบลุกลามทั่วโลก ทำให้ประชาชนบางส่วนวิตกจะได้รับผลกระทบ จึงเริ่มซื้อสินค้าในปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค-บริโภค ประเภทสินค้าจำเป็น และที่เก็บได้นาน ทำให้พ่อค้าชายแดนรับคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น สร้างความคึกคักแก่แวดวงการค้าชายแดนด้านจังหวัดระนอง โดยมีรถบรรทุกสินค้าเข้าแถวรอคิวเข้าท่าเรือเพื่อนำสินค้าส่งเข้าเมียนมาเป็นแถวยาว โดยหากเมียนมาผ่อนคลายเปิดรับคนสัญจรเข้าออกได้ด้วยจะยิ่งเพิ่มความคึกคักแก่เศรษฐกิจระนองยิ่งขึ้น
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เผยด้วยว่า ตอนนี้เส้นทางด้าน จ.ระนอง จึงเป็นช่องทางหลัก และช่องทางสำรองในการขนส่งสินค้าไปยังตอนกลางของเมียนมา เนื่องจากทางน้ำจะปลอดภัย และขนได้เป็นจำนวนมาก โดยในขณะนี้จะเห็นว่ามีรถบรรทุกสินค้าวิ่งเข้า-ออกผ่านมายังจ.ระนอง เพื่อนำสินค้ามายังท่าเรือเพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศเมียนมามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บริเวณหน้าท่าเรือเพื่อการขนส่ง หรือบริเวณเส้นทางเข้ามายังท่าเรือเพื่อการส่งออก จะมีรถขนส่งสินค้า รถบรรทุกพ่วงจอดรอเป็นแถวเรียงยาวเป็นระยะทางยาว เพื่อรอเข้าไปส่งของยังท่าเรือขนส่งสินค้า