นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ8ปีและศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยว่าจะยังคงสามารถอยู่ต่อหรือไม่นั้น ในส่วนของภาคเอกชนมองว่าทุกอย่างมีกฎกติกาในตัวอยู่แล้วซึ่งไม่น่าจะมีอะไรน่ากังวลจะมีก็แค่เรื่องการประชุมสุดยอดผู้นำหรือเอเปคในช่วงปลายปีนี้ที่ยังต้องเดินหน้าต่อ แต่ทั้งนี้เอกชนมองว่าไม่น่าจะสะดุดเพราะเป็นงานระดับโลกและไทยเป็นเจ้าภาพดังนั้นรัฐบาลจะต้องทำออกมาให้ดีและไม่ให้เกิดสูญญากาศ
“ทุกอย่างอยู่ในกรอบกติกาไม่ใช่เกมการเมืองหรืออะไร ซึ่งถ้าทำตามกติกาก็ไม่มีอะไรน่ากังวล ขอเพียงการประชุมเอเปคซึ่งเป็นงานใหญ่ของไทยไม่สะดุดและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศยังคงเดินหน้า ส่วนมุมมองของนักลงทุนต่างประเทศเขาไม่ได้มองว่าจะกระทบกับการลงทุนของเขา เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งแต่เป็นเรื่องของกฎกติกา และยังไงก็ต้องมีรัฐบาลรักษาการ”
ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่าในแง่ของการค้าระหว่างประเทศยังคงเดินหน้าต่อไม่ได้มีความกังวลหรือมีผลกระทบ ขอเพียงให้ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพต่อเนื่องไม่เกิดสูญญากาศก็พอ
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฏกติกาถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาในทิศทางใด สภาก็ยังคงอยู่ก็จะมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งไม่กระทบกับการทำงานหรือภาพลักษณ์ในด้านความเชื่อมั่นใจสายตานักลงทุนรวมการประชุมเอเปคที่จะมีขึ้นปลายปีนี้ด้วย
แต่การประชุมเอเปคถ้ามีรัฐบาลรักษาการการเจรจาตกลงความต่างๆอำนาจที่มีก็อาจจะไม่สมบูรณ์เท่ารัฐบาลจริงๆ ดังนั้นการประชุมก็ยังเดินหน้าต่อรวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศด้วย แต่รัฐบาลรักษาการไม่ควรออกมาตรการใหม่ๆออกมาในช่วงเป็นรักษาการและเศรษฐกิจไทยสามารถโตได้ด้วยตัวเองแล้ว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาทิศทางใดก็ตาม ต้องติดตามดูต่อว่าแล้วการเมืองทั้งในสภาและนอกสภาจะเป็นอย่างไร จะมีการชุมชุม เพราะการประชุมเอเปคก็เคยมีเหตุการณ์วุ่นวายแต่เชื่อว่ารัฐบาลจะรักษาเสถียรภาพได้