นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยผลสำรวจ สถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2565 พบว่า การก่อหนี้เพิ่มขึ้น3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าโดยคิดเป็นจำนวนหนี้ 501,711 บาทต่อครัวเรือน สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ศูนย์พยากรณ์เคยสำรวจภาวะหนี้ภาคครัวเรือนไทย
โดยสาเหตุของการเป็นหนี้มาจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะสถานการณ์ราคาสินค้าแพงขึ้นจากราคาน้ำมัน รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การผ่อนสินค้ามากเกินไปเนื่องจากมีการซื้อสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และขาดรายได้จากการออกจากงาน
แต่อย่างไรก็ตาม หนี้ทั้งหมดแยกเป็นหนี้ในระบบ 78.9% และหนี้นอกระบบ 21.1%ทำให้ความกังวลในการก่อหนี้ไม่มากนักเพราะยังคงมีทรัพย์สินถืออยู่ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นจะทำให้จำนวนหนี้ลดลงได้ จากความสามารถในการชำระหนี้เพิ่มขึ้น
โดยมองว่าปีหน้ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ควรหนุนในเรื่องของการลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชน กระจายความเจริญและรายได้ไปสู่ท้องถิ่น เพื่อทำให้เกิดการฟื้นตัวระยะยาว ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในภาคประชาชนจากคนชั้นกลางที่มีรายได้เพิ่มขึ้น