CITIBANK ตั้งเป้าปี63 บริหารเงินเศรษฐีเต็มสูบ-ลูกค้าโต 3 เท่าตัว

ซิตี้แบงก์ประกาศส่งต่อความมั่งคั่ง มองประเทศไทยเศรษฐีเติบโตสูงกว่าเอเชียและโลก เล็งเจาะลูกค้ามั่งคั่งเงินฝากและลงทุน 5 ล้านบาทขึ้น ตั้งเป้าภายในปี 2563 ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว สินทรัพย์ AUM เพิ่มขึ้นเท่าตัว เฉลี่ยโตปีละ 30% ล่าสุดเปิดตัว "ซิตี้โกลด์ เวลท์ เซ็นเตอร์" สาขาไร้เงินสด-ดันพนักงานเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของลูกค้ากลุ่ม (Wealth Management) สูงกว่ากลุ่มประเทศเอเชีย และทั่วโลก ประกอบกับไทยยังมีฐานลูกค้ามั่งคั่งไม่สูงมาก จึงเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของธนาคาร ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่ธนาคารให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ลูกค้ายังมีความรู้ในด้านการลงทุนมากขึ้น ประกอบกับธนาคารนำเครื่องมือและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลูกค้าในการบริหารจัดการลงทุนมากขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายจากทั่วโลก ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนของลูกค้าเมื่อเทียบกับเงินฝากทยอยปรับสูงขึ้น จากเมื่อช่วง 5 ปีก่อน สัดส่วนฐานลูกค้าธนาคารที่ลงทุนต่ำกว่า 50% แต่ปัจจุบันสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 70% และอีก 30% จะเป็นการฝากเงิน สะท้อนว่าการดำเนินธุรกิจของธนาคารมีประสิทธิภาพและลูกค้าสามารถรับรู้ได้

ดังนั้น จากแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว ธนาคารตั้งเป้าเติบโตฐานลูกค้าระดับสูงที่มีเงินลงทุนและเงินฝากกับธนาคาร (AUM) ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือกลุ่มซิตี้โกลด์ ในปีนี้อยู่ที่ 40% และภายในปี 2563 จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือขยายตัวเฉลี่ยปีละ 30% ทำให้เงินลงทุนสุทธิหรือ AUM ภายในปี 2563 จะเติบโตเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ขณะที่กลุ่มซิตี้ไพรออริตี้ ที่มี AUM ตั้งแต่ 1-5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่เพิ่งเริ่มทำในปีที่ผ่านมา จึงยังไม่ได้มีเป้าหมายการเติบโตชัดเจน แต่ก็เป็นกลุ่มที่ธนาคารให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยพอร์ตตัวอย่างการลงทุนของธนาคารจะให้ผลตอบแทน (Yield) เฉลี่ยอยู่ที่ 9% และจากข้อมูลพบว่า 30-40% ของลูกค้าซิตี้โกลด์จะเป็นการลงทุนในกองทุนต่างประเทศ



"ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง เป็นธุรกิจหลักที่เราเป็นผู้บุกเบิก และเป็นจุดแข็งของเรา ประกอบกับปัจจุบันลูกค้ามีความรู้มากยิ่งขึ้น ทำให้การเติบโตเพิ่มขึ้นตามแคมเปญที่ตอบโจทย์ลูกค้าและเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกในด้านการลงทุน รวมถึงการผ่อนคลายของธปท.จะเป็นตัวจุดประกายให้ธุรกิจนี้เติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย โดยเป้าหมายเราคาดว่าจะเพิ่มลูกค้าเป็น 3 เท่า และสินทรัพย์ 1 เท่าภายในปี 2563"

นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคาร ซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้า ธนาคารจึงเปิดตัว "ซิตี้โกลด์ เวลท์ เซ็นเตอร์" เต็มรูปแบบแห่งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าเดอะคริสตัน วีรันดา ถือเป็นสาขาที่พลิกโฉมธนาคารยุคใหม่เป็นธนาคารสาขาไร้เงินสดแห่งแรกในประเทศไทย โดยเป็นศูนย์รวมบริการธนาคารดิจิตอลทั้งด้านการเงิน และการลงทุนด้วยนวัตกรรมการวางแผนกรลงทุนรูปแบบใหม่ "Total Wealth Advisor" พลิกโฉมพนักงานธนาคารสู่ที่ปรึกษาด้านการลงทุน โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาอยู่ที่ อโศก และเซ็นทรัลเวิร์ด โดยยุบรวมสาขาสีลมมาอยู่ในวีรันดา

ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้า แบ่งเป็น ลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตประมาณ 1 ล้านราย ลูกค้าสินเชื่อ 3 แสนราย        และลูกค้ารายย่อยอีก 3 หมื่นราย