Play
‘COTTO’เทรด โวลุ่มพุ่ง-ราคาหุ้นแพง
COTTO เปิดซื้อขายวันแรกราคาแกว่ง 2.64-3.68 บาท ก่อนปิดที่ 3.40 บาท โบรกเกอร์ชี้ราคาต้นทุนของผู้ถือหุ้นเดิมอยู่ที่ 2.65 บาท/หุ้น ค่า P/E 51.54 เท่า (ราคาหุ้นหลังตลาดปิดวันที่8 ส.ค. ราคาเปิด 3.24 บาท ราคาสูงสุด 3.42 บาท ราคาต่ำสุด 3.18 บาท มูลค่าตลาด 4.38 บาท)
หุ้นของบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO เริ่มซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นเปิดที่ 2.70 บาท ราคาตํ่าสุด 2.64 บาทและสูงสุด 3.68 บาท ก่อนจะปิดที่ 3.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,317 ล้านบาท
COTTO เกิดจากการควบรวมกันของ บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ฯ หรือ TGCI และบริษัทย่อย 4 บริษัท ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ทำให้ ณ สิ้นปี 2560 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 13,297 ล้านบาท หนี้สิน 4,532 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 8,765 ล้านบาท มีกำลังการผลิตกระเบื้องเซรามิกสูงสุด 94 ล้านตารางเมตร โดยบริษัทย่อยทั้ง 4 บริษัทของ SCC ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกในประเทศไทยภายใต้แบรนด์หลัก คือ COTTO และ SOSUCO โดย TGCI ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องปูพื้นและบุผนังชนิดเคลือบ จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ CAMPANA และ CASA
บริษัทระบุว่า การควบรวมกิจการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เช่น สร้างมูลค่าจาก Synergy ระหว่างกัน โดยบริษัทจะดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับกระเบื้องเซรามิกในไทยแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ทำการตลาด จัดจำหน่าย อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับล่าง กลาง และบน รวมถึงการเพิ่มอำนาจต่อรองกับผู้จัดจำหน่ายสินค้าและวัตถุดิบ (Economies of Scale)
เมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ทำธุรกิจเดียวกันอย่าง บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC มีสินทรัพย์รวม 7,097 ล้านบาท หนี้สิน 3,316 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 3,781 ล้านบาท มีกำลังการผลิตกระเบื้องเซรามิกสูงสุด 70 ล้านตารางเมตร
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด ระบุว่า COTTO ทำธุรกิจคล้ายกับ DCC จากงบการเงินปี 2560 พบว่า COTTO มีประสิทธิภาพทำกำไรตํ่ากว่า DCC มาก โดย COTTO มีอัตรากำไรสุทธิ 3.6% ขณะที่ DCC มีอัตรากำไรสุทธิ 15.2%
อย่างไรก็ตามภายหลังที่ COTTO ควบรวมกิจการ 5 บริษัท คาดว่าจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และความสามารถการแข่งขันมากขึ้น
สำหรับผู้ถือหุ้น TGCI ซึ่งแปลงสภาพเป็นหุ้น COTTO ในอัตรา 1 หุ้น TGCI : 1.25904909 COTTO จะมีต้นทุนใหม่ที่ 2.65 บาท/หุ้น P/E 51.54 เท่า และ P/BV 1.88 เท่า เทียบกับ DCC ที่มี P/E 13 เท่า และ P/BV 3.64 เท่า
ข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2561 บริษัท เซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด ถือหุ้นใน COTTO สัดส่วน 91% ทำให้มีผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมกันไม่ถึง 15% ของทุนชำระแล้ว คุณสมบัติในเรื่องการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ไม่เป็นไปตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะต้องการกระจายหุ้นให้เป็นไปตามเกณฑ์ เช่น การเสนอขายหุ้น COTTO ที่ถือโดยผู้ถือหุ้นเดิม การออกและเสนอขายหุ้นใหม่ให้แก่บุคคลทั่วไป รวมถึงพนักงานของบริษัท คาดว่าจะมีการกระจายหุ้นได้ตามเกณฑ์ภายในปี 2562-2563
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,389 วันที่ 5-8 สิงหาคม 2561
หุ้นของบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO เริ่มซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นเปิดที่ 2.70 บาท ราคาตํ่าสุด 2.64 บาทและสูงสุด 3.68 บาท ก่อนจะปิดที่ 3.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,317 ล้านบาท
COTTO เกิดจากการควบรวมกันของ บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ฯ หรือ TGCI และบริษัทย่อย 4 บริษัท ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ทำให้ ณ สิ้นปี 2560 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 13,297 ล้านบาท หนี้สิน 4,532 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 8,765 ล้านบาท มีกำลังการผลิตกระเบื้องเซรามิกสูงสุด 94 ล้านตารางเมตร โดยบริษัทย่อยทั้ง 4 บริษัทของ SCC ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกในประเทศไทยภายใต้แบรนด์หลัก คือ COTTO และ SOSUCO โดย TGCI ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องปูพื้นและบุผนังชนิดเคลือบ จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ CAMPANA และ CASA
บริษัทระบุว่า การควบรวมกิจการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เช่น สร้างมูลค่าจาก Synergy ระหว่างกัน โดยบริษัทจะดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับกระเบื้องเซรามิกในไทยแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ทำการตลาด จัดจำหน่าย อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับล่าง กลาง และบน รวมถึงการเพิ่มอำนาจต่อรองกับผู้จัดจำหน่ายสินค้าและวัตถุดิบ (Economies of Scale)
เมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ทำธุรกิจเดียวกันอย่าง บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC มีสินทรัพย์รวม 7,097 ล้านบาท หนี้สิน 3,316 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 3,781 ล้านบาท มีกำลังการผลิตกระเบื้องเซรามิกสูงสุด 70 ล้านตารางเมตร
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด ระบุว่า COTTO ทำธุรกิจคล้ายกับ DCC จากงบการเงินปี 2560 พบว่า COTTO มีประสิทธิภาพทำกำไรตํ่ากว่า DCC มาก โดย COTTO มีอัตรากำไรสุทธิ 3.6% ขณะที่ DCC มีอัตรากำไรสุทธิ 15.2%
อย่างไรก็ตามภายหลังที่ COTTO ควบรวมกิจการ 5 บริษัท คาดว่าจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และความสามารถการแข่งขันมากขึ้น
สำหรับผู้ถือหุ้น TGCI ซึ่งแปลงสภาพเป็นหุ้น COTTO ในอัตรา 1 หุ้น TGCI : 1.25904909 COTTO จะมีต้นทุนใหม่ที่ 2.65 บาท/หุ้น P/E 51.54 เท่า และ P/BV 1.88 เท่า เทียบกับ DCC ที่มี P/E 13 เท่า และ P/BV 3.64 เท่า
ข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2561 บริษัท เซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด ถือหุ้นใน COTTO สัดส่วน 91% ทำให้มีผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมกันไม่ถึง 15% ของทุนชำระแล้ว คุณสมบัติในเรื่องการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ไม่เป็นไปตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะต้องการกระจายหุ้นให้เป็นไปตามเกณฑ์ เช่น การเสนอขายหุ้น COTTO ที่ถือโดยผู้ถือหุ้นเดิม การออกและเสนอขายหุ้นใหม่ให้แก่บุคคลทั่วไป รวมถึงพนักงานของบริษัท คาดว่าจะมีการกระจายหุ้นได้ตามเกณฑ์ภายในปี 2562-2563
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,389 วันที่ 5-8 สิงหาคม 2561
