ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิต GULF ที่ระดับ "A+" ปรับแนวโน้มเป็น "Positive"

25 ธ.ค. 2567 | 13:57 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2567 | 13:57 น.

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิต GULF ที่ระดับ "A+" ปรับแนวโน้มเป็น "Positive" สะท้อนมุมมองที่เป็นบวกต่อการควบรวมกิจการกับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และคาดการณ์มีกระแสเงินสดระดับสูง

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ A+ และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทอยู่ที่ระดับ A 

รวมถึงได้รับการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตจาก Stable หรือ คงที่ เป็น Positive หรือบวก จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS) โดยสะท้อนถึงมุมมองที่เป็นบวกต่อการควบรวมกิจการกับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH 

อีกทั้งให้ความเห็นว่าภายหลังการควบรวมกิจการ บริษัทใหม่ (NewCo) จะมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้ในระดับสูง และารลงทุนที่มีการกระจายตัวที่ดี
 

ทั้งนี้ การได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ A+ และแนวโน้มเครดิตมุมมองเป็นบวกจาก TRIS สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจของ GULF ที่มีฐานะการเงินที่มั่นคง กระแสเงินสดที่เสถียร ความเสี่ยงต่ำ และการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพและหลากหลาย รวมถึงการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพ 

ส่วนการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตจาก Stable เป็น Positive แสดงให้เห็นว่า TRIS มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของบริษัทหลังการควบรวมกิจการกับ INTUCH โดยเฉพาะสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นของ NewCo ที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ที่ลดลง ไม่เพียงแต่มีโอกาสผลักดันให้อันดับเครดิตสูงขึ้นในอนาคตเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้บริษัทขยายการลงทุนได้เพิ่มขึ้น ทำให้ GULF สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวต่อไป ซึ่ง GULF มีแผนที่จะออกหุ้นกู้อีกประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาทในช่วงต้นปี 2568
 

อย่างไรก็ดี ล่าสุด GULF ยังได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในระดับสูงสุดที่ AAA กลุ่มทรัพยากร จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงอย่างครอบคลุม

และการนำข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) มาดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน