สัมภาษณ์
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในธุรกิจหนังสำเร็จรูปไม่ค่อยดีเท่าไร ราคาหนังสูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตรองเท้าเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบที่เป็นผ้ามากขึ้น เพราะเกี่ยวเนื่องกับกำลังซื้อที่ลดลงด้วย แต่ถ้าเลือกได้ ผู้ผลิตก็อยากขายรองเท้าหนังมากกว่า เพราะขายได้ราคาดีกว่า กำไรมากกว่า”
นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL ผู้ผลิตหนังวัวฟอกสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสำเร็จรูป สร้างรายได้ให้บริษัทเป็นสัดส่วนใหญ่ 69% งวด 6 เดือนแรกปี 2561 มีรายได้ 867 ล้านบาท โดยบริษัทมีลูกค้า อาทิ อาดิดาส, ทิมเบอร์แลนด์, แวนส์, พูม่า เป็นต้น
[caption id="attachment_348806" align="aligncenter" width="503"]
ภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน[/caption]
“ปัจจุบันเราใช้อัตราการผลิตอยู่ราวๆ 75-80% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท ถ้าใช้อัตราการผลิตเต็ม 100% จะสร้างรายได้ถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี โดยบริษัทได้ลงทุนกว่า 80 ล้านบาท ในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น”
นายภูวสิษฏ์กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีนี้อยู่ในช่วงปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ทั้งการเพิ่มบุคลากร การปรับเปลี่ยนเครื่องจักร รวมถึงการเปลี่ยนมุมมองในเชิงธุรกิจ จะมีการทำงานใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น เพื่อให้มีความพร้อมในการผลิตและจัดส่งให้ได้รวดเร็วขึ้น จากเดิมที่ต้องรอคำสั่งซื้อแล้วจึงผลิต ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ในกระบวนการผลิต เราก็ปรับเปลี่ยนวิธีคิด โดยอาจจะผลิตล่วงหน้าสต๊อกไว้ก่อนบางส่วน เมื่อลูกค้ามีคำสั่งซื้อเข้ามาก็จะส่งมอบได้เร็วขึ้น
สำหรับธุรกิจฟอกหนังปัจจุบันใช้อัตราการผลิต 95% ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเข้าหนังวัวและหนังหมูจากต่างประเทศ ผ่านกระบวนการฟอกและส่งออก ในปี 2560 ได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 เท่าตัว โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงสุดสามารถฟอกหนังวัวได้ 100,000 ตัวต่อเดือน และหนังหมู 100,000 ตัวต่อเดือน
นอกจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายหนังสำเร็จรูป และฟอกหนังแล้ว CPL ยังมีอีกกลุ่มธุรกิจหนึ่ง คือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ได้แก่ รองเท้านิรภัย (Safety Shoes) ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” และสินค้าอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ-จัดซื้อภายในประเทศ รวมทั้งเป็นสินค้ารับจ้างผลิต (OEM) ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรองเท้านิรภัย 50,000 คู่ต่อเดือน บริษัทมีโชว์รูมอยู่ 17 สาขา ตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และมียอดขายมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในไทย
ใน 6-7 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอุปกรณ์ป้องกันภัยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้เติบโตสูงเป็นสถิติใหม่ทุกเดือน โดย
รายได้จากธุรกิจกลุ่มนี้ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของรายได้รวม ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ 700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายภูวสิษฏ์กล่าวว่า CPL ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจหลักที่บริษัททำมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี โดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงหรือขยายไปสู่ธุรกิจอื่นที่บริษัทไม่มีความเชี่ยวชาญเหมือนธุรกิจที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
“ธุรกิจฟอกหนังเป็นธุรกิจหลักของบริษัท จะทำอย่างไรให้ธุรกิจนี้กลับมาแข็งแกร่ง ตอนนี้ถือว่านิ่งเกินไป เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ช่วงนี้เรามีการปรับปรุงหลายๆ อย่าง จะต้องเร่งพัฒนาเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอีก 5-6 รายในเอเชีย จากเดิมที่เราเน้น Made to Order ก็จะปรับเปลี่ยนมาเป็น ผลิต เก็บสต๊อก และขาย โดยต้องคาดเดาความต้องการของลูกค้าให้แม่นยำจากการทำงานที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น”
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,419 วันที่ 18-21 พฤศจิกายน 2561