ธปท.ผนึกสมาคมธนาคารไทย-แบงก์พาณิชย์-ธุรกิจค้าปลีก เปิดบริการ MyPromptQR ต่อ ยอดธุรกรรมคิวอาร์โค้ดที่มียอด 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน ช่วยร้านค้าบริหารเงินสะดวก-รวดเร็ว คาดไตรมาส 4 เปิดใช้นำร่อง 5 แบงก์ใหญ่ ต้นปี 63 ใช้ครบ 9 แห่ง ด้าน
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภายหลังเปิดให้บริการ QR Payment ซึ่งเป็น QR Standard เดียวกันเมื่อปลายปี 2560 พบว่าปัจจุบันเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น ทั้งการซื้อสินค้าและชำระเงิน โดยปัจจุบันมีร้านค้ารับ QR Code กว่า 5 ล้านร้านค้า และมียอดชำระเงินผ่าน QR Code เฉลี่ย 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ธปท. สมาคมธนาคารไทย (TBA) และธนาคารพาณิชย์ และร้านค้าพันธมิตรต่างๆ ได้เปิดบริการต่อยอดบริการ QR Payment รูปแบบใหม่ขยายสู่ภาคธุรกิจ “The New Chapter of QR Payment: MyPromptQR” ซึ่งเป็นการขยายมาตรฐาน Thai QR Payment สู่ภาคธุรกิจ ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีเครือข่ายสาขาจำนวนมาก เช่น ร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า ซึ่ง MyPromptQR จะช่วยให้ภาคธุรกิจรับชำระเงินได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น สามารถเชื่อมโยงระบบการรับชำระเงินกับระบบ Point of Sale ที่จุดรับชำระเงินของร้านค้าได้อัตโนมัติ สะดวกขึ้นจากการให้บริการ QR Code แบบเดิมที่ลูกค้ากรอกยอดเงินและสแกน QR Code ของร้านค้า จึงลดขั้นตอนและเวลาของแคชเชียร์ในการรับชำระเงิน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับระบบส่งเสริมการขาย ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ในอนาคต
สำหรับบริการ MyPromptQR นี้ เป็นบริการชำระเงินแรกที่พัฒนาบนระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินดิจิทัลสมัยใหม่ที่ใช้มาตรฐานสากล ISO20022 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของธปท.ตามแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน ฉบับที่ 4 โดยเป็นมาตรฐานข้อความทางการเงินที่นำมาใช้กับระบบการชำระเงินสำคัญในหลายประเทศชั้นนำ รองรับการส่งข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินและภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถส่งข้อมูลทางธุรกิจไปพร้อมกับการชำระเงิน สนับสนุนการปรับไปสู่ Digital Business อย่างครบวงจร และในอนาคตสามารถรองรับการเชื่อมโยงกับต่างประเทศ และต่อยอดนวัตกรรมที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักงานระบบการชำระเงิน (PSO) สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ภายในไตรมาสที่ 4 บริการ MyPromptQR จะสามารถเปิดบริการได้ โดยจะเริ่มจาก 5 ธนาคารใหญ่ก่อน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ประมาณ 60-70% ของยอดชำระคิวอาร์ทั้งหมด และภายในต้นปี 2563 จะสามารถใช้ได้ครบทั้ง 9 แห่ง ส่วนจะมีการขยายไปต่างประเทศนั้น อาจจะต้องมีการพูดคุยร่วมกับสมาคมธนาคารในแต่ละประเทศ และทำงานร่วมกัน โดยหากมีการขยายน่าจะเริ่มต้นในกลุ่มประเทศ CLMV ก่อน
นายอมร สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริการ MyPromptQR ทั้งฝั่งร้านค้าและลูกค้าจะเริ่มเปิดให้บริการประมาณเดือนกันยายน โดยธนาคารจะติดตั้งอุปกรณ์ให้กับร้านค้าขนาดใหญ่เพื่อรองรับการสแกน MyPromptQR ซึ่งจะนำร่องที่จุดชำระเงินของบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เป็นเจ้าแรกที่มีจุดให้บริการครอบคลุมกว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ จากปัจจุบันธนาคารมีร้านค้า K Plus Shop จำนวน 1.7 ล้านร้านค้า และมีจุดรับบัตร (EDC) จำนวน 3 แสนเครื่อง รวมมีจุดรับชำระผ่านบริการ 2 ล้านร้านค้า
อมร สุวจิตตานนท์
ทั้งนี้ บริการ MyPromptQR คาดว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายด้วย QR Code ผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีปริมาณการทำธุรกรรมเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดธุรกรรมอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 100% โดยในช่วง 6 เดือนแรกมียอดธุรกรรมอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท จากปี 2561 อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 อยู่ที่ 567 ล้านบาท
“เราน่าจะขึ้นบริการ MyPromptQR ได้ราวกลางเดือนกันยายนโดยจะเริ่มจากบิ๊กซีและขยายไปเรื่อย คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดใช้คิวอาร์ได้มากขึ้น แต่ยอดจะเพิ่มขึ้นและเห็นชัดจะเป็นปีหน้า”