ครม.เห็นชอบ สรรพสามิต ลดภาษีเครื่องดื่มนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ-น้ำผัก ผลไม้ผสมนวัตกรรมสุขภาพ หวังคนไทยหันดื่มมากขึ้น เชื่อทำราคาขายปลีกลดลงขวดละ 1-3 บาท
นายพชร อนัตศิลป์ อธิบดี กรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 24 ก.ย.62 ได้เห็นชอบมาตรการทางภาษีสรรพสามิต 2 มาตรการคือ การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่สำหรับเครื่องดื่มนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ (ฟังก์ชันนอล ดริงค์) หรือ เครื่องดื่มประเภทน้ำเปล่าที่มีส่วนผสมของนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ เช่น การผสมคอลลาเจน ผสมวิตามิน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคเครื่องดื่มที่ส่งผลดีต่อสุขภาพมากขึ้น โดยจะเก็บภาษีเพียง 10% ลดจากเดิมที่ต้องเสียภาษีในพิกัดเครื่องดื่มทั่วไปที่ 14% และเครื่องดื่มประเภทน้ำผัก ผลไม้ ที่มีส่วนผสมของนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ จะได้ถูกเก็บภาษีเพียง 3% ซึ่งลดลงจากเดิมที่ต้องเสียภาษีถึง 10%
ทั้งนี้ภาษีเครื่องดื่มทั้ง 2 ประเภทจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้แนวโน้มของราคาเครื่องดื่มทั้ง 2 ประเภทมีโอกาสปรับลดลงขวดละ 1-3 บาท จากปัจจุบันที่มีขายในท้องตลาดขวดละ 20-30 บาท
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบมาตรการทางภาษีสรรพสามิตเพื่อเยียวยาช่วยเหลือชาวไร่ยาเส้น โดยมีการปรับลดการเก็บภาษีสรรพสามิตยาเส้นให้กับชาวไร่ หรือโรงงานขนาดเล็กที่มีการทำเอง หั่นเอง ขายเอง และมียอดผลิตไม่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปี ให้ลดการจัดเก็บภาษีจาก 10 สตางค์ต่อกรัม เหลือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม ซึ่งจะช่วยให้ชาวไร่ และโรงผลิตยาเส้นขนาดเล็กซึ่งมีอยู่ถึง 30-40% ได้รับประโยชน์ สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่หันมาทำยาเส้นได้มากขึ้น โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 เป็นต้นไป
ส่วนการเพิ่มการจัดเก็บภาษีความหวานนั้นกรมสรรพสามิต ยังยืนยัน ในวันที่ 1 ต.ค.62 นี้ จะมีการปรับภาษีความหวานเพิ่มขึ้นอีกรอบ หากผู้ผลิตยังไม่สามารถลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มได้ ซึ่งจะต้องเสียภาษีอีกเท่าตัว โดยอัตราการจัดเก็บภาษีความหวาน ตั้งแต่ 1 ต.ค.62-30 ก.ย.64 ประกอบด้วย เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลไม่เกิน 10 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เก็บภาษีเท่าเดิมที่ 0.30 บาทต่อลิตร เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 10 กรัม แต่ไม่เกิน 14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตรจากเดิม เสียภาษี 0.50 บาทต่อลิตร เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 14 กรัม แต่ไม่เกิน 18 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 3 บาทต่อลิตร จากเดิม 1 บาท //และ ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 5 บาทต่อลิตร //โดยหลังจากนี้จะมีการปรับภาษีแบบขั้นบันไดแบบเท่าตัวอีกครั้งในช่วง 1 ต.ค.64-30 ก.ย.66 และ 1 ต.ค.66 เป็นต้นไป