ธ.ก.ส. แจงเหตุ ดึงเงินประกันรายได้ข้าวเกษตรกรภาคใต้กลับ เหตุต้องสอบทานข้อมูลให้ตรงกับมติครม. ยันถูกต้องและโอนเข้าบัญชีเกษตรกร 9 จังหวัดใต้แล้วตั้งแต่ 17 ต.ค.
นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยถึงกรณีที่ธ.ก.ส.มีการดึงเงินที่ธ.ก.ส.ได้โอนเงินส่วนต่างประกันรายได้รอบแรกให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อสอบทานความถูกต้องให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)กำหนดและป้องกันปัญหาเกษตรกรได้รับเงินชดเชยส่วนต่างก่อนระยะเวลาที่กำหนด เพราะการโอนเงินส่วนต่างประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรอบแรก ซึ่งมีการปลูกข้าวตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2562 และระบุการเก็บเกี่ยวในช่วงนี้ ตามข้อมูลที่กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ส่งมาให้
ทั้งนี้เนื่องจากเป็นการโอนเงินในรอบแรกของโครงการสำหรับฤดูทำนาในปีนี้ จึงต้องตรวจสอบซ้ำ เพื่อให้การโอนเงินสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของโครงการ ประกอบกับมีการทักท้วงขอให้มีการสอบทานข้อมูลบางส่วนที่อาจไม่สอดคล้องกับมติครม.)เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 ซึ่งกำหนดระยะเวลาที่จะขอใช้สิทธิ์ชดเชยระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2563 ยกเว้นเกษตรกรภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 31 พฤษภาคม 2563 ซึ่งจากการสอบทานพบว่า เป็นเกษตรกรที่ปลูกข้าวในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีการปลูกข้าวก่อนกำหนด ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2562 เป็นต้นมา และแจ้งข้อมูลเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงระยะเวลานี้จริง
"เอกสารโครงการประกันรายได้ระบุว่า เกษตรกรสามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่เก็บเกี่ยวเป็นต้นไป ยกเว้นเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวก่อนวันที่กำหนด ให้ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่เริ่มโครงการ ซึ่งสามารถจ่ายได้ ธ.ก.ส.จึงได้โอนเงินชดเชยส่วนต่างเข้าบัญชีเงินฝากให้แก่เกษตรกรทุกรายแล้ว 2,473 ราย ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลาและสงขลา และในพื้นที่ 5 จังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี และสมุทรสงครามครบถ้วนตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2562"