คปภ.เข้ม “คืน- ลด” เบี้ยประกันภัย และขยายเวลาคุ้มครอง เยียวยาโควิด

01 พ.ค. 2563 | 08:15 น.

คปภ. เรียกประชุมธุรกิจประกันวินาศภัยเข้ม ได้ข้อสรุปเพิ่ม 4 มาตรการ “คืน – ลด – เบี้ยประกันภัย และขยายเวลาการคุ้มครอง” เพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)  เปิดเผยว่า คปภ.ได้เชิญผู้บริหารของสมาคมประกันวินาศภัยไทย เข้าร่วมหารือผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 และได้ข้อสรุปมาตรการเพิ่มเติม เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่หยุดประกอบกิจการ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และรัฐบาลได้ออกมาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) เพื่อลดการติดเชื้อ

คปภ.เข้ม “คืน- ลด” เบี้ยประกันภัย และขยายเวลาคุ้มครอง  เยียวยาโควิด

สำหรับมาตรการด้านการประกันภัยประเภท Non-Motor บริษัทประกันวินาศภัย สามารถกำหนดให้ผู้เอาประกันภัยเลือกลด หรือระงับความคุ้มครองจากการเสี่ยงภัยของกรมธรรม์ประกันภัยบางส่วน ตามการเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงภัย ตามที่ธุรกิจหยุดประกอบกิจการ โดยบริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยจากส่วนความคุ้มครองที่ลดลง แต่รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท

คปภ.เข้ม “คืน- ลด” เบี้ยประกันภัย และขยายเวลาคุ้มครอง  เยียวยาโควิด

ด้านมาตรการ การประกันภัยประเภท Motor (การประกันภัยรถยนต์) บริษัทประกันวินาศภัยสามารถพิจารณาชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ โดยสามารถพิจารณาลดเบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยที่จะต่ออายุในปีถัดไปได้ไม่เกิน 40%  และ/หรือ  พิจารณาขยายเวลาการคุ้มครอง เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว เนื่องจากเป็นช่วงที่ไม่มีการใช้รถ

คปภ.เข้ม “คืน- ลด” เบี้ยประกันภัย และขยายเวลาคุ้มครอง  เยียวยาโควิด

นอกจากนั้น ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือก/ลดความคุ้มครองจากการใช้รถทั้งหมดหรือบางส่วนตามการเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงภัย โดยบริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยจากส่วนความคุ้มครองที่ลดลง โดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท

คปภ.เข้ม “คืน- ลด” เบี้ยประกันภัย และขยายเวลาคุ้มครอง  เยียวยาโควิด

“ขั้นตอนจากนี้  คปภ.จะเร่งออกคำสั่งนายทะเบียนเพื่อให้บริษัทประกันภัยสามารถปฏิบัติตามมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมโดยเร็ว และจะกำกับดูแล เพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการเยียวยาต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ตลอดจนภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างแท้จริง”